Stock

รู้จักหุ้น ‘MINT’ เจ้าของ ‘Pizza Company’ ที่มีธุรกิจเต็มมือ!

รู้จักหุ้น “MINT” เจ้าของ “Pizza Company” ที่มีธุรกิจอยู่เต็มมือ พร้อมโครงสร้างธุรกิจ

วงการสื่อสารการตลาดออนไลน์ ในช่วงที่ผ่านมามีประเด็นที่น่าตื่นเต้นเกิดขึ้น เมื่อแบรนด์พิซซ่ายักษ์ใหญ่ต่าง ออกมาแข่งขันโปรโมทโปรโมชัน แบบลดราคากระหน่ำ จนเกิดเป็นกระแสไวรัลเต็มโลกโซเซียล ซึ่งหนึ่งในแบรนด์นั้นก็คือ “The Pizza Company” ที่เป็นสิทธิแฟรนไชส์ของ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นเเนล จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น MINT นั่นเอง

หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับ MINT กันเป็นอย่างดี แต่ก็เชื่อว่าคงมีคนจำนวนมาก ที่ยังไม่ได้เข้าใจธุรกิจของ MINT ในเชิงลึก บทความนี้จะมาไปรู้จักกับหุ้นตัวนี้ให้มากขึ้น

Pizza

โครงสร้างธุรกิจของ MINT

MINT เป็นหุ้นที่ประกอบธุรกิจร้านอาหารและโรงแรม โดยมีสัดส่วนรายได้แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้

1. Minor Hotels สัดส่วนรายได้ประมาณ 79%

ดำเนินธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทในรูปแบบเป็นเจ้าของ บริหารจัดการ และร่วมลงทุน ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ รวมกว่า 530 แห่ง และมีจำนวนห้องพักกว่า 78,000 ห้อง ภายใต้เครื่องหมายการค้า อนันตรา, อวานี, เอเลวาน่า, เอ็นเอช, เอ็นเอช คอลเลคชั่น, นาว, โอ๊คส์, ทิโวลี, แมริออท, โฟร์ซีซั่นส์, เซ็นต์ รีจิส, เรดิสัน บลู และโรงแรมในกลุ่มไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นต้น

2. Minor Foods สัดส่วนรายได้ประมาณ 20%

ผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดรายหนึ่งในเอเชีย ด้วยจำนวนร้านอาหารกว่า 2,600 สาขา ใน 24 ประเทศ ภายใต้เครื่องหมายการค้า เดอะ พิซซ่า คอมปะนี, เดอะ คอฟฟี่ คลับ, ริเวอร์ไซด์, ไทย เอ็กซ์เพรส, บอนชอน, สเวนเซ่นส์, ซิซซ์เลอร์, แดรี่ ควีน และเบอร์เกอร์ คิง เป็นต้น

Pizza
ภาพ:เพจ Minor International

3. Minor Lifestyle สัดส่วนรายได้ประมาณ 1%

ประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าไลฟ์สไตล์ที่เน้นสินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์กว่า 280 สาขา ภายใต้เครื่องหมายการค้าอเนลโล่, เบิร์กฮอฟฟ์, โบเดิ้ม, บอสสินี่, ชาร์ล แอนด์ คีธ, เอสปรี, โจเซฟ โจเซฟ, แรทลีย์, สวิลลิ่ง เจ.เอ. เฮ็งเคิลส์ และ ไมเนอร์ สมาร์ท คิดส์ เป็นต้น

ผลประกอบการของ MINT 

ปี 2563 รายได้ 58,695.64 ล้านบาท ขาดทุน 21,407.34 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 76,211.26 ล้านบาท ขาดทุน 13,166.51 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 124,205.85 ล้านบาท กำไร 4,286.37 ล้านบาท
ปี 2566 รายได้ 153,049.24 ล้านบาท กำไร 5,407.06 ล้านบาท

Pizza

จะเห็นว่าแนวโน้มผลประกอบการของ MINT อยุ่ในทิศทางที่ดีขึ้นชัดเจน จากช่วงโควิด เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจและการบริโภคทั่วโลกที่กลับมาอยู่ในจุดที่เป็นปกติ และเติบโตขึ้น สำหรับล่าในงวดไตรมาส 1 ปี 2567 บริษัทมีรายได้รวม 38,050 ล้านบาท เติบโต 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 1,146 ล้านบาท พลิกจากผลขาดทุน 976 ล้านบาท ในไตรมาส 1/2566

เนื่องจากธุรกิจโรงแรมที่ได้รับอานิสงส์จากความต้องการการเดินทางที่เพิ่มขึ้น ส่งผลถึงความสามารถในการเพิ่มราคาห้องพัก และการใช้จ่ายเฉลี่ย ส่วนธุรกิจร้านอาหารก็มีปริมาณการรับประทานอาหารภายในร้านที่มากขึ้น ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน ที่เอื้อให้ผลกำไรของบริษัทฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งบริษัทมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน จำนวน 919 ล้านบาท

มุมมองนักวิเคราะห์

นักวิเคราะห์ บล. หยวนต้า คาดแนวโน้มในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยมองว่า MINT ยังสามารถสร้างผลประกอบการได้ดีต่อเนื่องแม้เศรษฐกิจโลกอ่อนแอ และเติบโตได้แม้เจอฐานสูงของปี 2566 อีกทั้งกลยุทธ์การลดภาระหนี้สินในสภาวะที่ดอกเบี้ยสูง จะช่วยหนุนให้อัตราการทำกำไรของบริษัทดีขึ้น คาดจะเริ่มเห็นผลชัดเจนขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2/2567

นอกจากนี้ ระดับราคาหุ้นปัจจุบัน ประเมินว่าเป็นจุดน่าสนใจ “ทยอยสะสม” ราคาพื้นฐานที่ 39 บาทต่อหุ้น ด้วย Valuation ที่ไม่แพง เมื่อเทียบกับกลุ่ม และมี Upside ให้ไปต่อได้

อ่านข่าวเพิ่มเติม 

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน