อะไรคือความน่าสนใจของ MGI “หุ้นนางงาม” ที่ “ณวัตน์” ลั่นไม่มีวันขาดทุน มีแต่กำไรมากขึ้นตลอดเวลา
มงลงก็ว่าได้สำหรับหุ้น MGI หรือ บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หลังเปิดเทรดวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ mai ที่ราคา 6.25 บาท พุ่งขึ้น 26.26% เหนือราคาจองซื้อ IPO ที่ 4.95 บาท และสามารถทำราคาปิดที่ 8.50 บาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 71.71%
ประเด็นที่น่าจับตานอกเหนือจากราคาหุ้นที่พุ่งทะยานแล้ว นั่นคือคำมั่นสัญญาของ “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MGI ซึ่งกล่าวหลังพิธีเปิดการซื้อขายวันแรกว่า “จะทำธุรกิจให้มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด มีธรรมาภิบาล และซื่อสัตย์จริงใจ ผลกำไรในทุกไตรมาสทุกปีจะปันผลคืนให้กับผู้ถือหุ้น 40% มั่นใจได้เลยว่าธุรกิจของเราไม่มีวันที่จะขาดทุน มีแต่กำไรมากขึ้น ตลอดเวลา”
โดยเงินที่ได้จากการระดมทุน MGI มีแผนจะนำไปพัฒนาสินค้าและเทคโนโลยี อีกส่วนหนึ่งเป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท นอกจากนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ประมาณ 20% ต่อปี ผ่านการมุ่งขยายพื้นฐานการทำธุรกิจ โดยเฉพาะการเป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจการค้า (คอมเมิร์ซ)
หุ้นนางงาม MGI การเติบโตอยู่ตรงไหน
MGI เข้าจดทะเบียนในตลาด mai และปัจจุบันมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดอยู่ที่ 1,921 ล้านบาท ถือว่าเป็นไซส์เล็ก (Small Cap.) แต่เสน่ห์ของหุ้นแบบนี้ คือถ้าทำได้ดี ทำได้ถูกจุด ก็จะสามารถเติบโตได้รวดเร็วมาก ซึ่งสะท้อนมาถึงราคาหุ้นด้วยเช่นกัน
คำถามคือ MGI มีจุดเด่นและความน่าสนใจตรงไหนบ้าง? จะสามารถเติบโตต่อเนื่องอย่างยั่งยืนจากขนาด Market Cap. 1,000 ล้าน เพิ่มเป็นหมื่นเป็นแสนล้านได้หรือไม่? เราลองมาเจาะพื้นฐานธุรกิจ เพื่อทำนายอนาคตกันดูครับ
รายได้ของ MGI มาจาก 4 กลุ่มธุรกิจหลัก
1. ธุรกิจพาณิชย์ (Commerce) สัดส่วน 41%
2. ธุรกิจบริหารจัดการศิลปิน (Talent) สัดส่วน 23%
3. ธุรกิจสื่อและบันเทิง (Media and X-Periences) สัดส่วน 19%
4. ธุรกิจประกวดนางงามมิสแกรนด์ (Pageant) สัดส่วน 13% และอีก 4% มาจากรายได้ค่าเช่าช่วง MGI Hall (อ้างอิงผลประกอบการงวด 9 เดือน ปี 2566)
จุดสังเกตคือ เราจะเห็นว่ารายได้หลักที่หล่อเลี้ยงบริษัท ไม่ใช่ธุรกิจประกวดนางงาม แต่เป็นธุรกิจพาณิชย์ ซึ่งเป็นการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าผิวกาย น้ำหอม เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ อาหาร และอาหารเสริม
รองลงมาเป็นการบริหารจัดการศิลปิน ซึ่งต่อยอดมาจากชื่อเสียงของผู้ประกวดนางงาม เพื่อรับงานจ้างต่าง ๆ ได้แก่ รีวิวสินค้า งานพิธีกร โชว์ตัว เดินแบบ และงานแสดง เป็นต้น
เพราะฉะนั้น ผลประกอบการของ MGI จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง คงไม่ใช่ความปังของการจัดเวทีประกวดนางงามในแต่ละปี แต่หัวใจสำคัญอยู่ที่การต่อยอดชื่อเสียงของผู้ประกวด ไปสู่การสร้างรายได้ในธุรกิจต่าง ๆ ที่หลากหลาย โดยมีโมเดลความสำเร็จแล้วจากกรณีของ “ชาล็อต-อิงฟ้า” ซึ่งทั้งคู่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท ที่สัดส่วนคนละ 0.95%
สรุปจุดเด่นของหุ้น MGI
บทวิเคราะห์ บล.หยวนต้า ระบุว่าจุดเด่นของหุ้น MGI มีด้วยกัน 4 ข้อดังนี้
1. เป็นผู้นำธุรกิจประกวดนางงามระดับประเทศ ด้วยยอดผู้ติดตามและยอดผู้ชมประกวดสูงสุดบนแพลตฟอร์มออนไลน์
2. บริษัทมีการต่อยอดไปยังธุรกิจอื่นที่มีแนวโน้มเติบโตสูง ทั้งธุรกิจพาณิชย์ ธุรกิจบันเทิง และธุรกิจบริหารศิลปิน
3. มีผลประกอบการฟื้นตัวดีต่อเนื่องในปี 2565 เนื่องจากผลของการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจ เพิ่มรายได้จากธุรกิจสื่อ ธุรกิจบันเทิง และรายได้จากธุรกิจบริหารจัดการศิลปิน
4. สถานะทางการเงินแข็งแกร่ง เป็น Net Cash Company ไม่มีภาระหนี้สิน และบริษัทมีนโยบายจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ
พร้อมประเมินมูลค่าเหมาะสมหุ้น MGI ณ สิ้นปี 2567 ที่ 9.80 บาทต่อหุ้น มองว่าธุรกิจมีความน่าสนใจจากผลประกอบการที่มีแนวโน้มเติบโตดีต่อเนื่อง ปัจจัยหนุนจากการปรับกลยุทธ์ขยายฐานรายได้ ต่อยอดจากความนิยมของธุรกิจนางงามสู่ธุรกิจอื่นๆ ประกอบกับประสิทธิภาพทำกำไรที่ดีขึ้น จากการมุ่งขายสินค้าผ่านออนไลน์ ลดตัวแทนจำหน่าย
ทั้งนี้ หากอิงสมมติฐานกำไรปี 2567 ที่ 108 ล้านบาท จำนวนหุ้นหลัง IPO ที่ 210 ล้านหุ้น EPS ปี 2567 จะอยู่ที่ 0.52 บาทต่อหุ้น ประเมิน PER เหมาะสมที่ 18 เท่า จึงทำให้ได้มูลค่าพื้นฐานที่ 9.80 บาทต่อหุ้น ถือเป็นหุ้น IPO น้ำดีของปี 2566 ที่คุ้มเสี่ยงหากเราเข้าใจในคาแรกเตอร์ของบริษัท
ขอบคูณภาพ: เฟซบุ๊กเพจ Miss Grand Thailand
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เกิดอะไรขึ้น!? เพจมิสแกรนด์ฯ ร่อนประกาศ สั่งห้าม ‘นักข่าวชื่อดัง’ พูดพาดพิงถึงเวที
- คนแรกของมิสแกรนด์! นางงามดังสละโสด เข้าพิธีวิวาห์สุดชื่นมื่น กับแฟนหนุ่มต่างชาติ
- ถ่ายทอดสด มิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล 2023 โค้งสุดท้ายรอบไฟนอล