ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (11 ธ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ปิดบวก 157.06 จุด นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐ รวมถึง ดัชนีราคาผู้บริโภค และการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 36,404.93 จุด เพิ่มขึ้น 157.06 จุด หรือ +0.43%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,622.44 จุด เพิ่มขึ้น 18.07 จุด หรือ +0.39% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,432.49 จุด เพิ่มขึ้น 28.51 จุด หรือ + 0.20%
สหรัฐมีกำหนดเปิดเผย ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนพฤศจิกายนในวันนี้ จากนั้นจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพฤศจิกายน ในวันพรุ่งนี้ (13 ธ.ค.) โดยนักลงทุนจับตาข้อมูลเหล่านี้อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินแนวโน้มเงินเฟ้อของสหรัฐ รวมทั้งจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 12-13 ธันวาคมนี้
ข้อมูลล่าสุดจาก FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมครั้งนี้ แต่ให้น้ำหนักเพียง 43% ที่จะลดดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม 2567 และให้น้ำหนักเกือบ 75% ที่จะลดดอกเบี้ยในเดือนพฤษภาคม 2567
ทั้งนี้ นักลงทุนได้ลดการคาดการณ์ ที่ว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมปีหน้า หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 199,000 ตำแหน่งในเดือนที่แล้ว ส่วนอัตราว่างงานปรับตัวลงสู่ระดับ 3.7% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.9%
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ส่องกลยุทธ์ลงทุนหุ้นไทยโค้งสุดท้าย! แนะเก็บหุ้นปันผล รับฟันด์โฟลว์ไหลเข้า
- 9 เดือนแรกปีนี้ หุ้นอะไรบ้างให้ผลตอบแทนสูงสุด
- ตลท. ชี้ความขัดแย้งตะวันออกกลางกดดันหุ้นทั่วโลก แนะติดตามข้อมูลรอบด้าน
