ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดวานนี้ (1 ธ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” พุ่งขึ้น 294.61 จุด หลัง “เจอโรม พาวเวล” ประธานธนาคารกลางสหรัฐ แสดงความเห็นที่สนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐ อาจแตะระดับสูงสุดแล้ว
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 36,245.50 จุด เพิ่มขึ้น 294.61 จุด หรือ +0.82% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,594.63 จุด เพิ่มขึ้น 26.83 จุด หรือ +0.59% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 14,305.03 จุด เพิ่มขึ้น 78.81 จุด หรือ +0.55%
นายพาวเวล ยอมรับว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จำเป็นต้องดำเนินการอย่างระมัดระวังท่ามกลางสัญญาณเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง โดยเฟดต้องสร้างความสมดุลในการดำเนินนโยบายการเงินไม่ให้คุมเข้มหรือผ่อนคลายมากเกินไป
ข้อมูลที่เปิดเผยเมื่อวานนี้ แสดงให้เห็นว่า การผลิตของสหรัฐยังคงหดตัว เนื่องจากโรงงานต่างๆ มียอดคำสั่งซื้อใหม่ลดลง สินค้าคงคลังที่ลดลง และแรงกดดันด้านแรงงาน
สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐทรงตัวที่ระดับ 46.7 ในเดือนพฤศจิกายน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 47.6 โดยดัชนียังคงปรับตัวต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ภาวะหดตัวของภาคการผลิตสหรัฐ โดยเป็นการหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 13
ในบรรดาหุ้น 11 กลุ่มของดัชนีเอสแอนด์พี 500 นั้น หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวขึ้นเป็นเปอร์เซ็นต์มากที่สุด ขณะที่หุ้นกลุ่มบริการด้านการสื่อสารเป็นเพียงกลุ่มเดียวที่ปรับตัวลง ส่วนหุ้นกลุ่มขนส่ง ซึ่งปรับตามภาวะเศรษฐกิจ และหุ้นขนาดเล็ก (Small Cap) ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ส่องกลยุทธ์ลงทุนหุ้นไทยโค้งสุดท้าย! แนะเก็บหุ้นปันผล รับฟันด์โฟลว์ไหลเข้า
- 9 เดือนแรกปีนี้ หุ้นอะไรบ้างให้ผลตอบแทนสูงสุด
- ตลท. ชี้ความขัดแย้งตะวันออกกลางกดดันหุ้นทั่วโลก แนะติดตามข้อมูลรอบด้าน