ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (26 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ลดลง 152.66 จุด หลุดระดับ 33,000 จุด หลังสหรัฐรายงานจีดีพีไตรมาส 3 แข็งแกร่ง ซึ่งแม้จะช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่ก็จะเป็นปัจจัยหนุนการขึ้นดอกเบี้ย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 32,883.27 จุด ลดลง 152.66 จุด หรือ 0.46% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,147.91 จุด ลดลง 38.86 จุด หรือ 0.93% และดัชนีแนสแด็กที่ 12,622.93 จุด ร่วงลง 198.29 จุด หรือ 1.55%
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 3/2566 ในวันนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 4.9% ในไตรมาสดังกล่าว สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 4.7% หลังขยายตัว 2.0% และ 2.1% ในไตรมาส 1 และ 2 ตามลำดับ
ในการกล่าวถ้อยแถลงครั้งล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ และย้ำว่าตลาดแรงงาน และการขยายตัวทางเศรษฐกิจจำเป็นต้องชะลอตัวลง เพื่อให้เฟดบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ 2%
ขณะที่ การดิ่งลงของดัชนีแนสแด็ก หลังจากที่ทรุดตัวลง 2.4% เมื่อวานนี้ (25 ต.ค.) ตามการปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ส่งผลให้ดัชนีแนสแด็ก เข้าสู่ภาวะปรับฐาน (Market Correction)
โดยดัชนีปรับตัวลงมากกว่า 10% จากจุดสูงสุดที่ทำไว้ในเดือนกรกฎาคม และหากดัชนีปรับตัวลงต่อไปจนดิ่งลง 20% จากจุดสูงสุดล่าสุด ก็จะส่งผลให้ดัชนีเข้าสู่ภาวะตลาดหมี (Bear Market)
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ส่องกลยุทธ์ลงทุนหุ้นไทยโค้งสุดท้าย! แนะเก็บหุ้นปันผล รับฟันด์โฟลว์ไหลเข้า
- 9 เดือนแรกปีนี้ หุ้นอะไรบ้างให้ผลตอบแทนสูงสุด
- ตลท. ชี้ความขัดแย้งตะวันออกกลางกดดันหุ้นทั่วโลก แนะติดตามข้อมูลรอบด้าน