Stock

‘ดาวโจนส์’ ปิดลบ 190.87 จุด จับตาผลประกอบการ-ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดซื้อขายวานนี้ (23 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ลดลง 190.87 จุด  ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน ขณะนักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนและข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 32,936.41 จุด ลดลง 190.87 จุด หรือ -0.58% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,217.04 จุด ลดลง 7.12 จุด หรือ -0.17% และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 13,018.33 จุด เพิ่มขึ้น 34.52 จุด หรือ +0.27%

ดาวโจนส์

นักวิเคราะห์ชี้ว่า ปัจจัยที่มีผลต่อการซื้อขายในตลาดยังคงเป็นเรื่องของอัตราดอกเบี้ย โดยขณะนี้นักลงทุนเปลี่ยนไปให้ความสนใจกับประเด็นที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะขึ้นดอกเบี้ยอีกมากเท่าใด และอีกนานเท่าใด จากเดิมที่เคยมองว่าเฟดอาจจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานาน ทั้งตลาดยังมองว่าเฟดอาจจะไม่ลดดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้

อย่างไรก็ดี อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีชะลอตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 4.85% เมื่อคืนนี้ หลังจากที่พุ่งขึ้นทะลุระดับ 5% ในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งการชะลอตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเป็นปัจจัยหนุนดัชนีแนสแด็กปิดในแดนบวก

หุ้นกลุ่มบริการด้านการสื่อสารพุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดในบรรดาหุ้น 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนีเอสแอนด์พี 500 ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง หลังจากราคาน้ำมัน WTI ดิ่งลงเกือบ 3%

นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้ โดยบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อย่างอัลฟาเบท, ไมโครซอฟท์ จะเปิดเผยผลประกอบการในวันอังคาร ขณะที่เมตา แพลตฟอร์มส์จะรายงานผลประกอบการในวันพุธ และอะเมซอนจะรายงานผลประกอบการในวันพฤหัสบดี

ส่วนบริษัทอุตสาหกรรมรายใหญ่อย่าง 3M และเจเนอรัล อิเล็กทริก จะรายงานผลประกอบการในวันอังคาร และโบอิ้งจะรายงานผลประกอบการในวันพุธ ขณะที่เจเนอรัล มอเตอร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของสหรัฐจะรายงานผลประกอบการในวันพฤหัสบดี

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ย ก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 31 ตุลาคม-1 พฤศจิกายน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo