Stock

‘ไซยะบุรีฯ’ เปิดจองกรีนบอนด์สกุลเงินบาท อัตราดอกเบี้ย 5.15-5.55% เริ่ม 20 ต.ค.นี้

“ไซยะบุรี พาวเวอร์” เปิดจองกรีนบอนด์สกุลเงินบาท หุ้นกู้อายุ 3 ปี 4 ปี และ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 5.15-5.55% วันที่ 20, 24 และ 25 ตุลาคมนี้ ยืนยันภาวะเศรษฐกิจของสปป.ลาว ไม่กระทบรายได้บริษัท

นายวรพจน์ อุชุไพบูลย์วงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซยะบุรี พาวเวอร์ จำกัด หรือ โรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี (XPCL) บริษัทร่วมในเครือของ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKPower และ เป็นโรงไฟฟ้าพลังน้ำที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้วที่มีกำลังการผลิตมากที่สุดของกลุ่ม CKPower เปิดเผยว่า วันที่ 20, 24 และ 25 ตุลาคม 2566 นี้ XPCL เปิดจอง หุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมสกุลเงินบาท อายุ 3 -5 ปี ให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่

ไซยะบุรี

สำหรับ XPCL ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือองค์กรที่ A- แนวโน้ม คงที่ ส่วนอันดับเครดิตหุ้นกู้อยู่ที่ BBB+ จากทริสเรทติ้ง จำนวน 3 ชุด คือ

  • หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนตุลาคม ปี 2569 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.15% ต่อปี
  • หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 4 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนตุลาคม ปี 2570 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.3% ต่อปี
  • หุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 5 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนตุลาคม ปี 2571 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.55% ต่อปี

ผู้ลงทุนสถาบัน หรือผู้ลงทุนรายใหญ่ ที่สนใจหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของ XPCL สามารถจองซื้อขั้นต่ำ 1 แสนบาท และทวีคูณครั้งละ 1 แสนบาท ได้ที่ผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ทั้ง 5 แห่ง คือ

S 4988933 0

  • ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (ยกเว้นสาขาไมโคร) โทร.1333 หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน BualuangmBanking
  • ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-111-1111
  • ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) โทร. 02-777-6784 ซึ่งรวมถึง บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
  • บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ซึ่งรวมถึงธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)ในฐานะหน่วยงานขายของบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร (โทร. 02-165-5555)
  • บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด โทร. 0-2695-5000

สำหรับหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมสกุลเงินบาทของ XPCL ที่เสนอขายในครั้งนี้ เป็นไปตามมาตรฐาน Green Bond Principles 2021 และ ASEAN Green Bond Standards 2018 และได้ผ่านการสอบทานโดยองค์กรรับรองมาตรฐานชั้นนำของโลก DNV ในฐานะผู้สอบทานอิสระ (Independent External Reviewer)

S 4988931 0
วรพจน์ อุชุไพบูลย์วงศ์

ทั้งนี้ บริษัทจะนำเงินที่ได้รับไปชำระคืนเงินกู้ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ อีกทั้งช่วยลดต้นทุนทางการเงินเฉลี่ย
1/2

นายวรพจน์ กล่าวว่า ขอให้ผู้ลงทุนมั่นใจว่า XPCL จะไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณเศรษฐกิจของ สปป.ลาว เพราะธุรกิจผลิตไฟฟ้านั้นถือเป็นรายได้หลักที่สำคัญของ สปป.ลาว ในการเป็น Battery of Asia

ขณะเดียวกัน บริษัทมีการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างรัดกุม โดยจัดการกระแสเงินสดที่เกี่ยวกับการดำเนินงานผ่านบัญชีของธนาคารพาณิชย์ไทยที่เปิดในประเทศไทย รวมถึงมีการสำรองเงินสดล่วงหน้าเพื่อให้มีความพร้อมในการชำระดอกเบี้ย จ่ายคืนเงินกู้ และไถ่ถอนหุ้นกู้ ซึ่งบัญชีทั้งหมดก็อยู่ในประเทศไทยเช่นเดียวกัน

นอกจากนี้  XPCL ยังมีรายได้เป็นสกุลเงินบาทและดอลลาร์ และมีค่าใช้จ่ายที่เป็นสกุลเงินกีบในสัดส่วนที่น้อยมาก จึงไม่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของค่าเงินกีบอย่างมีนัยสำคัญแต่อย่างใด

สำหรับ XPCL ได้รับสัมปทานจากรัฐบาล สปป.ลาว ให้ออกแบบ พัฒนา ก่อสร้าง และดำเนินการ โรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี มีกำลังผลิตติดตั้ง 1,285 เมกะวัตต์ ซึ่งไฟฟ้าที่ผลิตได้เกือบทั้งหมดจำหน่ายให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มีระยะเวลาสัมปทาน 31 ปี นับตั้งแต่วันเริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2562

S 4988934 0

ทั้งนี้ XPCL ผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังน้ำได้เฉลี่ยประมาณ 7,400 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี (GWh/Year) ซึ่งจัดเป็นพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) เป็นพลังงานสะอาดที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สามารถช่วยหลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 3.8 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี (tCO2e)

XPCL มีผู้ถือหุ้นหลักเป็นบริษัทพลังงานชั้นนำในประเทศไทย ได้แก่ CKPower (TRIS Rating: A) ถือหุ้น 42.5% บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC (TRIS Rating: AA+) ถือหุ้นผ่านบริษัทย่อยที่ 25% และบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO (TRIS Rating: AA+) ถือหุ้น 12.5%

ด้านผลการดำเนินงานของ XPCL ในปี 2565 มีรายได้ 16,230 ล้านบาท มีกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) จำนวน 14,730 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วน EBITDA Margin 91%

ส่วนในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 มีรายได้จำนวน 5,211 ล้านบาท มี EBITDA จำนวน 4,567 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วน EBITDA Margin 88% ในขณะที่อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566 ของบริษัทอยู่ที่ระดับ 1.8 เท่า ซึ่งต่ำกว่าข้อกำหนดหุ้นกู้ที่ให้ดำรงอัตราส่วนดังกล่าวไม่ให้สูงเกิน 3 เท่า

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo