ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดเมื่อวานนี้ (6 เม.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น โดย “ดาวโจนส์” ขยับขึ้นน้อยมาก ท่ามกลางแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ขณะนักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,485.29 จุด เพิ่มขึ้น 2.57 จุด หรือ +0.01% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,105.02 จุด เพิ่มขึ้น 14.64 จุด หรือ +0.36% และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 12,087.96 จุด เพิ่มขึ้น 91.09 จุด หรือ +0.76%
บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซาก่อนที่จะถึงวันหยุดยาว โดยตลาดจะปิดทำการในวันนี้ (7 เม.ย.) เนื่องในวัน Good Friday ขณะที่วอลุ่มการซื้อขายมีเพียง 9 พันล้านหุ้น เมื่อเทียบกับวอลุ่มเฉลี่ยในรอบ 20 วันทำการที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ 1.27 หมื่นล้านหุ้น
นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ หลังมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจและแรงงานที่อ่อนแอลง โดยล่าสุดกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 18,000 ราย สู่ระดับ 228,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 1 เมษายน บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐกำลังชะลอตัวลง อันเป็นผลมาจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา
ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันนี้ เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 238,000 ตำแหน่งในเดือนมีนาคม หลังจากพุ่งขึ้น 311,000 ตำแหน่งในเดือนกุมภาพันธ์ และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.6% ในเดือนมีนาคม
หุ้น 8 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดในแดนบวก นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสารพุ่งขึ้น 1.71% โดย หุ้นอัลฟาเบท พุ่งขึ้น 3.78% หุ้นสแนป ดีดขึ้น 1.64% หุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์ พุ่งขึ้น 2.18% หุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 2.55%
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- นักลงทุนคาด ‘แบงก์ชาติทั่วโลก’ ชะลอ ‘ขึ้นดอกเบี้ย’ หลังเกิดวิกฤติธนาคาร
- ‘เฟิร์สต์ ซิติเซนส์’ เข้าซื้อ ‘เงินฝาก-สินเชื่อ’ SVB
- ‘วิกฤติแบงก์ล้ม’ พ่นพิษ ฉุดยอดเงินฝากธนาคารสหรัฐ ดิ่งหนักสุดรอบ 1 ปี