ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (4 เม.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ร่วงลงกว่า 200 จุด ปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 วัน ท่ามกลางความกังวลที่ว่า การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน จะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ ขึ้นดอกเบี้ย เพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 33,340.69 จุด ร่วงลง 260.46 จุด หรือ 0.78% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,096.65 จุด ลดลง 27.86 จุด หรือ 0.68% และดัชนีแนสแด็กที่ 12,124.24 จุด ลบ 65.21 จุด หรือ 0.53%
นักลงทุนพากันเทขายทำกำไร หลังดาวโจนส์ทะยานขึ้นกว่า 300 จุด เมื่อวานนี้ (3 เม.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) และชาติพันธมิตร หรือโอเปคพลัส ประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมันโดยสมัครใจเพิ่มอีก 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวันจนถึงสิ้นปี 2566
นอกจากนี้ ตลาดกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) ประจำเดือนกุมภาพันธ์ พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 2 แตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี
ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานลดลง 632,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 9.9 ล้านตำแหน่งในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2564 และต่ำกว่าระดับ 10 ล้านตำแหน่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2564 รวมทั้งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 10.4 ล้านตำแหน่ง
ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะปิดทำการในวันศุกร์นี้ (7 เม.ย.) เนื่องในวัน Good Friday แต่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันดังกล่าว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- นักลงทุนคาด ‘แบงก์ชาติทั่วโลก’ ชะลอ ‘ขึ้นดอกเบี้ย’ หลังเกิดวิกฤติธนาคาร
- ‘เฟิร์สต์ ซิติเซนส์’ เข้าซื้อ ‘เงินฝาก-สินเชื่อ’ SVB
- ‘วิกฤติแบงก์ล้ม’ พ่นพิษ ฉุดยอดเงินฝากธนาคารสหรัฐ ดิ่งหนักสุดรอบ 1 ปี