Stock

นักท่องเที่ยวคึกคัก หนุนหุ้นโรงแรม ERW ฟื้นตัว

กลุ่มธุรกิจโรงแรมของเครือ บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW เจอความท้าทายอย่างมากในช่วงหลายปีมานี้ ก่อนหน้านี้ รายได้ที่เป็นเส้นเลือดใหญ่ของบริษัทนั้น มาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเกือบ 80% เลยทีเดียว เท่ากับว่าช่วงที่ต้องปิดประเทศ ส่งผลกระทบต่อธุรกิจโรงแรมของ ERW มากพอสมควร

ทั้งนี้ ERW มีเครือข่ายโรงแรมและรีสอร์ท ที่ครอบคลุมทุกระดับตั้งแต่ 5 ดาว ไปจนถึงระดับชั้นประหยัด ทั้งในประเทศไทยและประเทศฟิลิปปินส์ เป็นจำนวนรวม 73 แห่ง 9,863 ห้องพัก จากกว่า 10 แบรนด์ชั้นนำ อาทิ NOVOTEL, Mercure, ibis, HOP INN, GRAND HYATT และ JW MARRIOTT เป็นต้น

บริษัทยังดำเนินธุรกิจพื้นที่ให้เช่าและบริหารอาคาร โดยปัจจุบันให้เช่าพื้นที่อาคารเอราวัณ แบงค๊อก ตั้งอยู่ที่สี่แยกราชประสงค์ ทำเลศูนย์กลางของธุรกิจค้าปลีกใจกลางกรุงเทพฯ รวมถึงบริหารอาคารเพลินจิต เซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานและพื้นที่ให้เช่า บริเวณสี่แยกเพลินจิต

shutterstock 1782925673

ผลงานฟื้นเป็นสัญญาณซื้อ ERW

แนวโน้มผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 4/2565 ฟื้นตัวดีกว่าคาดจากจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าเมืองไทย ประกอบกับการท่องเที่ยวในประเทศที่ดีมากขึ้น ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ บล. ฟิลลิป (ประเทศไทย) จึงให้คำแนะนำ “ทยอยซื้อ” หุ้น ERW พร้อมปรับราคาพื้นฐานขึ้นเป็น 4.90 บาท ซึ่งประมาณการนี้ยังไม่รวมจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาเร็วกว่าคาดด้วย

การดำเนินธุรกิจในช่วงเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน ERW ทำได้ค่อนข้างดี โดย Occupancy (OCC) ที่ไม่รวม HOP IN ขยับเพิ่มขึ้นเป็น 80% จากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยมากขึ้น และได้อานิสงส์จากการจัดประชุม APEC ที่ผ่านมา ทำให้โดยเฉพาะโรงแรมระดับ Luxury ฟื้นตัวดีกว่ากลุ่ม ส่งผลให้อัตราค่าห้องพักเฉลี่ย (ARR) เพิ่มสูงขึ้น 90% จากปีก่อน และ RevPar ฟื้นตัวมากถึง 500% หรือราว 5 เท่าของช่วงเดียวกันปีก่อน

ขณะที่กลุ่มโรงแรมราคาประหยัด HOP INN ในไทย พบว่า OCC ขยับสูงขึ้นเป็น 80% และ ARR ขยับสูงขึ้น 5% ส่งผลให้ RevPar ฟื้นตัวดีต่อเนื่อง 50% จากปีก่อน ในส่วนของฟิลิปปินส์ OCC เพิ่มสูงขึ้นเป็น 75% ARR ปรับเพิ่มขึ้น 12-13% ทำให้ RevPar เพิ่มสูงขึ้น 60% จากปีก่อน

shutterstock 1383439370

เท่ากับว่าผลงานไตรมาส 4/2565 คาดบริษัทพลิกกำไรที่ 136 ล้านบาท ดีกว่าคาดก่อนหน้านี้ จากโมเมนตัมการดำเนินงานในเดือนธันวาคม ซึ่งตรงกับช่วงเทศกาลคริสมาสต์และวันหยุดยาวของไทย รวมทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทย คาดว่าทั้งปีเพิ่มเป็น 11.14 ล้านคน

รับผลบวกต่อเนื่องจากนักท่องเที่ยวจีน

เมื่อมองไปที่ทิศทางในปี 2566 นี้ ทาง สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) ประเมินช่วง 3 เดือนแรก (มกราคม – มีนาคม) จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยไม่ต่ำกว่า 3 แสนคน โดยคาดเดือนมกราคม เข้ามา 5 หมื่น – 1 แสนคน เดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม เพิ่มขึ้นเป็นเดือนละ 1-2 แสนคน

ขณะที่ตลอดทั้งปีคาดจะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาไม่ต่ำกว่า 5 ล้านคน ทั้งนี้ ทำให้ ททท. มีโอกาสปรับเป้านักท่องเที่ยวทั้งปี 2566 เพิ่มสูงขึ้น จากเดิมคาดไว้ที่ 20 ล้านคน โดยคิดเป็นจำนวน 50% ของช่วง Pre COVID-19

shutterstock 477841447 1

เรียกว่าธุรกิจเริ่มเห็นแสงสว่างชัดเจนสำหรับ ERW ซึ่งมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นทุกไตรมาส ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีกลยุทธ์มุ่งเน้นปรับพอร์ตโฟลิโอของธุรกิจโรงแรมไปยัง กลุ่ม HOP INN ในประเทศมากขึ้น ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนเป็น 100 แห่ง ภายในปี 2568 เพื่อลดผลกระทบจากโรงแรมขนาดใหญ่ และเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ

เมื่อทุกอย่างพอเป็นแบบนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของโรงแรมกลับมาเหมือนเดิมอีกครั้ง ตลอดจนความท้ายทายต่างๆ เริ่มจางหายไป สิ่งที่ต้องจับตากันต่อไปคือกลุ่มธุรกิจของ ERW จะสามารถกลับมาสร้างผลประกอบการได้เต็มศักยภาพได้อีกครั้งหรือไม่

อ่านข่าวเพิ่มเติม 

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน