ยื่นภาษี 2566 จ่ายภาษีไม่ไหว ขอผ่อนจ่ายภาษีได้หรือไม่ อัปเดตเงื่อนไขที่มนุษย์เงินเดือนควรรู้ที่นี่
สำหรับผู้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ประจำปี 2566 (ภ.ง.ด 90 และ ภ.ง.ด 91) และต้องจ่ายภาษีเพิ่ม คุณอาจจะยังไม่ทราบว่า ผู้เสียภาษีสามารถทำการผ่อนชำระภาษีได้ โดยไม่ต้องเสียดอกเบี้ยหรือค่าธรรมเนียมเพิ่ม โดยมีกรมสรรพากรได้กำหนด เงื่อนไขการผ่อนจ่ายภาษี ไว้ดังนี้
เงื่อนไขการผ่อนจ่ายภาษี มีดังนี้
- ภาษีที่ผ่อนชำระต้องมีจำนวนตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไป
- สามารถแบ่งชำระภาษีได้ 3 งวด เท่า ๆ กัน ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยหรือค่าธรรมเนียม
- ผ่อนภาษีได้ทั้งการยื่นภาษีออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์กรมสรรพากร www.rd.go.th และสำนักงานสรรพากรพื้นที่ (ยื่นภาษีแบบกระดาษ)
ว่าด้วย การยื่นภาษี และการผ่อนจ่ายภาษี
ไม่ว่าคุณจะยื่นภาษีออนไลน์ หรือเลือกยื่นภาษีแบบกระดาษที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่ หากภาษีที่คุณต้องจ่ายเพิ่มตรงตามเงื่อนไขที่กรมสรรพากรกำหนดไว้ คุณก็สามารถรับสิทธิผ่อนชำระภาษีได้ โดยมีขั้นตอนต่อไปนี้
1. การยื่นภาษีแบบกระดาษ ที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่
คุณสามารถแจ้งความประสงค์ขอผ่อนภาษีได้กับเจ้าหน้าที่สรรพากรพื้นที่ โดยมีเอกสารที่ต้องใช้คือ บ.ช. 35 จำนวน 1 ชุด (3 แผ่น) โดยมีการกำหนดงวดผ่อนจ่ายดังต่อไปนี้
- ชำระพร้อมยื่นแบบแสดงรายการภายในวันที่ 30 กันยายน หรือวันที่ 31 มีนาคม
- ชำระภายใน 1 เดือนนับแต่วันที่ต้องชำระงวดที่ 1
- ชำระภายใน 1 เดือนนับแต่วันที่ต้องชำระงวดที่ 2
2. การยื่นภาษีออนไลน์
ในกรณีที่คุณยื่นภาษีออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ของกรมสรรพากร คุณสามารถเลือกชำระภาษีแบบผ่อนจ่ายได้ด้วยตัวเอง โดยเมื่อคุณทำการยืนยันแบบแสดงรายการภาษีเรียบร้อยแล้ว ก่อนถึงขั้นตอนจ่ายภาษี ระบบของกรมสรรพากรจะมีข้อความแจ้งว่า “ต้องการผ่อนจ่ายภาษีหรือไม่?” หากคุณต้องการผ่อนภาษี ก็ให้คลิกที่ข้อความดังกล่าวได้เลย แต่หากคุณไม่อยากผ่อนจ่ายภาษี ให้เลือกคลิกที่ “ไม่ประสงค์ผ่อนชำระภาษี”
งวดผ่อนจ่ายภาษี สำหรับคนยื่นภาษีออนไลน์
- งวดที่ 1 : ชำระพร้อมกับการยื่นแบบแสดงรายการภาษี
- งวดที่ 2 : ชำระภาษี 1 เดือนหลังจากจ่ายภาษีงวดที่ 1
- งวดที่ 3 : ชำระภาษี 1 เดือนหลังจากจ่ายภาษีงวดที่ 2
ตัวอย่างเช่น คุณทำการยื่นภาษีออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของกรมสรรพากร วันที่ 8 เมษายน (วันสุดท้ายของการยื่นภาษีออนไลน์) และได้เลือกผ่อนชำระภาษี
- งวดที่ 1 : ชำระพร้อมกับการยื่นแบบแสดงรายการภาษี
- งวดที่ 2 : ชำระภาษีภายในวันที่ 8 พฤษภาคม
- งวดที่ 3 : ชำระภาษีภายในวันที่ 8 มิถุนายน
จ่ายภาษีผ่านช่องทางไหนได้บ้าง
1. จ่ายภาษีผ่านระบบ E-Payment : จ่ายภาษีผ่านระบบ E-Payment โดยคุณสามารถเลือกจ่ายภาษีผ่านบัตรเครดิต หรือ บัตรเดบิต จากระบบของสรรพากรที่เชื่อมต่อกับธนาคารได้ด้วยตัวเอง
2. จ่ายภาษีผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส (Counter Service) : ไม่ว่าจะเป็น บริการเคาน์เตอร์เซอร์วิสของธนาคาร และจุดชำระเงินต่างๆ ที่เข้าร่วมโครงการ เช่น ไปรษณีย์ไทย, 7-Eleven, Tesco Lotus, Big C, TrueMoney, CenPay เป็นต้น
3. จ่ายภาษีผ่านช่องทางอื่น : เพียงนำข้อมูลจาก Pay In Slip ที่ระบุเลขประจำตัวประชาชน หรือเลขประจำตัวผู้เสียภาษี 13 หลัก และรหัสควบคุม 15 หลัก พร้อมกับจำนวนภาษีที่ต้องเสีย ไปจ่ายผ่านช่องทางต่างๆ ที่คุณสะดวก ไม่ว่าจะเป็น Internet Banking , Mobile Banking ,Phone Banking ,ตู้ ATM และ เครื่องรับฝากเงินสดของธนาคารที่เข้าร่วมโครงการ
4. จ่ายภาษีที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่ : ในกรณีที่คุณยื่นภาษีแบบกระดาษที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่ คุณสามารถทำการจ่ายภาษีที่สำนักงานสรรพากรได้เลย โดยปัจจุบัน สำนักงานสรรพากรพื้นที่รองรับการชำระภาษีทั้งแบบเงินสด, จ่ายผ่านบัตรเครดิต, บัตรเดบิต, Tax Smart Card รวมถึง Internet Banking , Mobile Banking ,Phone Banking ฯลฯ
หมายเหตุ : หากคุณเลือกผ่อนจ่ายภาษีที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่ในงวดแรก การผ่อนจ่ายภาษีอีก 2 งวดถัดมา คุณจะต้องเดินทางมาชำระภาษีที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่เท่านั้น ไม่สามารถเปลี่ยนช่องทางการชำระภาษีในภายหลังได้
การผ่อนจ่ายภาษีกับเรื่องต้องระวัง
เนื่องจากปัจจุบันกรมสรรพากรมีบริการผ่อนจ่ายภาษีหลากหลายช่องทางมากขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เสียภาษีทุกท่าน แต่การผ่อนจ่ายภาษียังมีเรื่องที่คุณต้องทำความเข้าใจเพิ่มเติม อาทิ
1. หากเลือกผ่อนจ่ายภาษี ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ภายหลัง
หากคุณเลือกจ่ายภาษีแบบผ่อน 0% 3 เดือนกับระบบของกรมสรรพากร และดำเนินการผ่อนชำระภาษีในงวดแรกเรียบร้อยแล้ว คุณจะต้องผ่อนจ่ายภาษีจนครบทุกงวด ไม่สามารถเปลี่ยนมาจ่ายภาษีแบบครบเต็มจำนวนได้
ทั้งนี้ คุณสามารถเปลี่ยนแปลงการจ่ายภาษี (ไม่ว่าจะ เปลี่ยนจากผ่อนจ่ายเป็นชำระเต็มจำนวน หรือ เปลี่ยนจากจ่ายภาษีเต็มจำนวนเป็นผ่อนจ่าย) ได้เฉพาะในกรณีที่คุณยังไม่ได้ทำการชำระภาษีให้เรียบร้อยเท่านั้น และต้องทำการยื่นภาษีใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง
2. ตัดสินใจเลือกช่องทางจ่ายภาษีให้ดี
เราแนะนำให้คุณเลือกช่องทางการผ่อนจ่ายภาษีที่สะดวกกับคุณที่สุด ณ ตอนที่จ่ายภาษีในงวดแรก และควรคำนึงถึงความสะดวกในการจ่ายภาษีในงวดถัดๆ ไปด้วย เพราะหากคุณเลือกที่จะผ่อนจ่ายภาษีในงวดที่ 1 ผ่านสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาแล้ว คุณจะต้องเดินทางมาจ่ายภาษีงวดที่เหลือ (งวดที่ 2 และ 3) ที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่ด้วยเช่นกัน ไม่สามารถเปลี่ยนไปจ่ายภาษีผ่านช่องทางอื่นได้
3. หากไม่อยากโดนค่าปรับ ต้องผ่อนจ่ายภาษีตรงเวลา
ไม่ใช่แค่การยื่นภาษีที่ต้องยื่นภายในระยะเวลาที่กำหนดเท่านั้น การผ่อนจ่ายภาษีก็ต้องตรงเวลาด้วยเช่นกัน จริงอยู่ที่กรมสรรพากรอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เสียภาษีด้วยการระบบผ่อนจ่ายภาษี 3 งวด โดยไม่คิดดอกเบี้ยหรือค่าธรรมเนียมใดๆ เพิ่มเติม แต่คุณในฐานะผู้เสียภาษีก็ต้องจ่ายภาษีให้ตรงกับวันที่ครบกำหนดชำระภาษี ไม่สามารถหยุดผ่อนจ่ายภาษีได้ ทั้งนี้เพราะ
กรมสรรพากรมีข้อกำหนดไว้อย่างชัดเจนว่า หากคุณไม่ได้ทำการจ่ายภาษีงวดใดงวดหนึ่งภายในระยะเวลาที่กำหนด การผ่อนจ่ายภาษีจะสิ้นสุดลงทันที และคุณจะต้องทำการจ่ายภาษีคงเหลือทั้งหมด พร้อมกับเงินเพิ่มในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อเดือนของภาษีงวดที่เหลือด้วย
สำหรับผู้เสียภาษีที่เลือกผ่อนจ่ายภาษีกับสรรพากรไม่ว่าช่องทางใดก็ไม่ต้องเป็นกังวลหรือกลัวว่าเราจะพลาดหรือลืมจ่ายภาษีงวดที่เหลือจนเป็นเหตุให้ต้องจ่ายเงินเพิ่ม เพราะกรมสรรพากรจะส่ง SMS แจ้งเตือนเมื่อครบกำหนดจ่ายภาษี ทำให้คุณจ่ายภาษีได้ตรงเวลาเป๊ะ ๆ
ที่มา : www.cimbthaionlinecampaign.com
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ยื่นภาษีออนไลน์ 2566 วันสุดท้ายวันไหน ยื่นไม่ทันต้องทำอย่างไร มีโทษอะไรบ้าง?
- สรรพากรชี้แจงด่วน! ปมยื่นภาษีออนไลน์ พบรายได้ปริศนาโผล่
- อัปเดตสิทธิลดหย่อนภาษี 2566 สำหรับมนุษย์เงินเดือน ใครยังไม่ยื่นภาษีอ่านที่นี่เลย!
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- Twitter: https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg