เปิดรายงานการประชุมกนง.ชี้เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอนสูง พร้อมออกมาตรการเพิ่มหากจำเป็น จับตาสถานการณ์การระบาดโควิด-19 จากมาตรการเปิดรับนักท่องเที่ยว
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ฉบับย่อ ในการประชุมเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2564 มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ต่อปี และพร้อมออกมาตรการเพิ่มเติมหากจำเป็น
รายงานระบุว่าเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง ผ่อนคลายต่อเนื่องสำหรับมาตรการด้านการเงินและสินเชื่อควรเร่งกระจายสภาพคล่องไปสู่ผู้ได้รับผลกระทบ ให้ตรงจุดและลดภาระหนี้ อาทิ มาตรการสินเชื่อฟื้นฟูระยะที่ 2 มาตรการพักทรัพย์พักหนี้ และมาตรการอื่น ๆ ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ควบคู่กับการผลักดันให้สถาบันการเงินเร่งปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้เห็นผลใน วงกว้างและสอดคล้องกับความสามารถในการชาระหนี้ของลูกหนี้ในระยะยาว
ภายใต้กรอบการดำเนินนโยบายการเงินที่มีเป้าหมายเพื่อรักษาเสถียรภาพราคา ควบคู่กับดูแลเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนและเต็มศักยภาพ และรักษาเสถียรภาพระบบการเงิน คณะกรรมการฯ ยังคงให้น้ำหนักกับการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเป็นสาคัญ
ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ จะติดตามปัจจัยสาคัญที่ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ ได้แก่ พัฒนาการของมาตรการควบคุมการระบาดในประเทศ รวมทั้งความเพียงพอของมาตรการการคลังและมาตรการด้านการเงินและสินเชื่อ โดยพร้อมใช้เครื่องมือนโยบายการเงินที่เหมาะสม เพิ่มเติมหากจำเป็น
ภาวะเศรษฐกิจไทย
เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัว 0.7% และ 3.9% ในปี 2564 และ 2565 ตามลาดับ ใกล้เคียงกับ ประมาณการ ณ เดือนสิงหาคม โดยแม้ในไตรมาสที่ 3 ปี 2564 เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากมาตรการ ควบคุมการระบาดและการส่งออกท่ีชะลอลงกว่าคาด
แต่พัฒนาการด้านวัคซีนท่ีดีข้ึนชัดเจนและการผ่อนคลาย มาตรการควบคุมการระบาดที่เร็วกว่าคาด จะส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นและการบริโภคภาคเอกชนในช่วงท่ีเหลือของปี 2564
สำหรับปี 2565 เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มทยอยฟื้นตัวจากการใช้จ่ายในประเทศเป็นสำคัญ ตามความเชื่อมั่นท่ีปรับดีข้ึนต่อเนื่อง ขณะที่จำนวนนักท่องเท่ียวต่างชาติจะทยอยฟื้นตัวอย่างช้า ๆ และการส่งออกจะยังได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากปัญหา global supply disruption
ท้ังน้ี ต้นทุนค่าขนส่งสินค้าที่เพิ่มสูงข้ึนมากเป็นสาเหตุสำคัญของประมาณการการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดชั่วคราวท่ี -15.3 พันล้านดอลลาร์ ใน ปี 2564 โดยการขาดดุลที่เพิ่มข้ึนเทียบกับประมาณการเดือนมิถุนายนมากกว่าครึ่งหนึ่งเป็นผลจากรายจ่ายค่าระวางสินค้า (freight) ท่ีเร่งสูงขึ้นมาก
อย่างไรก็ดี ดุลบัญชีเดินสะพัดมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นเป็นบวกเล็กน้อยที่ 1 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2565 ตามสถานการณ์การขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์และเซมิคอนดักเตอร์ที่ คาดว่าจะเร่ิมคี่คลายตั้งแต่ช่วงกลางปี 2565 ด้านตลาดแรงงานยังคงเปราะบาง แต่รายได้ของแรงงานในภาค บริการและผู้ประกอบอาชีพอิสระมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นบ้างตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มปรับลดลงในปี 2564 มาอยู่ใกล้ขอบล่างของกรอบเป้าหมาย จากราคาอาหารสด ที่ปรับลดลงเป็นสาคัญและมาตรการลดค่าไฟฟ้าของภาครัฐเพิ่มเติมเพื่อช่วยค่าครองชีพ ขณะท่ีราคาน้ามันดิบ คาดว่าจะสูงขึ้นในระยะสั้นจากผลกระทบชั่วคราวของพายุเฮอริเคนไอดาในสหรัฐฯ เป็นสาคัญ
สำหรับใน ปี 2565 อัตราเงินเฟ้อท่ัวไปมีแนวโน้มปรับสูงขึ้น ตามราคาอาหารสดท่ีจะเพิ่มข้ึนจากการคลี่คลายของปัญหาอุปทานสินค้าเกษตรส่วนเกินในประเทศหลังจากท่ีสามารถกลับมาส่งออกได้มากขึ้น ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานมีแนวโน้มอยู่ในระดับต่าตามแรงกดดันด้านอุปสงค์ที่ยังไม่เข้มแข็ง
สำหรับการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในระยะ ปานกลางยังคงยึดเหนี่ยวอยู่ในกรอบเป้าหมาย
เศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้ายังเผชิญกับความไม่แน่นอนสูง โดยต้องติดตาม
- แนวโน้มการระบาดและการกลายพันธุ์ของไวรัส รวมถึงการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดและนโยบายการเปิดรับนักท่องเที่ยว
- การฟื้นตัวของความเชื่อมั่นภาคเอกชนหลังผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาด ซึ่งจะส่งผลต่อ การบริโภคและการลงทุน
- ความต่อเนื่องของมาตรการของภาครัฐเพื่อสนับสนุนให้เศรษฐกิจฟื้นตัวในระยะต่อไป
- ปัญหา supply disruption และต้นทุนค่าขนส่งสินค้าทางเรือ ที่อาจส่งผลกระทบต่อภาค การผลิตและการส่งออกสินค้า
อ่านข่าวเพิ่มเติม:
- คาดกนง.คงดอกเบี้ยยาวถึงสิ้นปีหน้า แม้ทั่วโลกขึ้นดอกเบี้ย
- กนง.คงดอกเบี้ย 0.50% คาดเศรษฐกิจเริ่มฟื้นจากผ่อนคลายโควิด-วัคซีน
- เปิดรายงานกนง. ประเมินเศรษฐกิจ ‘เสี่ยงขาลง’จากโควิดหนักกว่าที่คาดการณ์