Finance

เจ้าพระยามหานคร โชว์กำไร 9 เดือนโต 165%

บมจ. เจ้าพระยามหานคร หรือ CMC โชว์ฟอร์มหรูกำไร 9 เดือนเติบโตถึง 165% รายได้เพิ่มขึ้น 43% พร้อมจ่ายปันผล 7 สตางค์ ที่ปรึกษามั่นใจ ฝ่ากระแสตลาดฯ เทรดเหนือจอง ชูเป็นหุ้น VI กำไรโตแรงต่อเนื่อง แถมราคาต่ำกว่าบุ๊คที่ปรับปรุงด้วยราคาประเมินทรัพย์สินค่อนข้างมาก

vichian

นายแพทย์วิเชียร แพทยานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CMC เปิดเผยว่า ช่วง 9 เดือน ปี 2561 บริษัทมีรายได้รวม 1,510 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43% จาก 1,058 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว กำไรขั้นต้น 633 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42% และกำไรสุทธิ 186 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 65% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560

22093

บริษัทมีความเชื่อมั่นว่าผลประกอบการในปีนี้จะเติบโตตามเป้าหมาย และเพื่อเป็นของขวัญต้อนรับผู้ถือหุ้นใหม่ ที่ให้ความเชื่อมั่นลงทุนในหุ้นไอพีโอของ CMC คณะกรรมการบริษัทได้พิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลประกอบการในรอบ 9 เดือนแรก และกำไรสะสม จำนวน 7 สตางค์ต่อหุ้น ให้กับผู้ถือหุ้นทุกราย โดยวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการรับเงินปันผล (Record Date) คือวันที่ 30 พฤศจิกายน 2561

22094

ทางด้านนายประเสริฐ ตันตยาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่าย และรับประกันการจัดจำหน่ายร่วม หุ้นสามัญเพิ่มทุนของ CMC  แสดงความมั่นใจว่า หุ้น CMC จะสามารถเทรดเหนือราคาจองที่ 3 บาทได้ไม่ยาก เพราะเป็นหุ้นคุณค่า (Value Stock) ที่ทั้งคุ้มค่าและเติบโตสูง ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจะมีการเติบโตอย่างมากตลอด 3 ปีข้างหน้า

ทั้งนี้ ณ 30 กันยายน 2561 CMC มีโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมโอนและโครงการระหว่างก่อสร้างสามารถรับรู้เป็นรายได้อีกกว่า 5,500 ล้านบาท ซึ่งหากโอนได้มาก รายได้และกำไรในปีหน้าจะเติบโตอย่างมาก และยังมีโครงการใหม่ที่มีศักยภาพและจุดเด่นรอเปิดตัวระหว่างปีหน้าอีก 10 โครงการ มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการเติบโตในอีก 2 ปีถัดไป ราคาไอพีโอ 3.00 บาท คิดเป็นค่า P/E จากการคาดการณ์กำไรของนักวิเคราะห์ในปีหน้าเพียง 7 เท่า

22096

ในขณะที่ P/E ของตลาด MAI สูงกว่านี้ค่อนข้างมาก และเป็นราคาที่ตั้งไว้ต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีหลังปรับปรุงราคาตลาดล่าสุดของสินทรัพย์ที่ 4.68 บาทมาก คิดเป็นอัพไซด์กว่า 50%

นอกจากนี้ หุ้น CMC ยังมีมูลค่าที่ซุกซ่อนอยู่ (Hidden Value) ในรูปของที่ดินเปล่ารอการพัฒนาในทำเลที่มีศักยภาพซึ่งบริษัทเป็นเจ้าของแล้วอีก 7 แห่ง มีมูลค่าตลาดรวมกว่า 1,300 ล้านบาท หรือคิดเป็นมูลค่าต่อหุ้นประมาณ 1.30 บาท

ยิ่งกว่านั้น ด้วยสถานะการเป็นบริษัทจดทะเบียน และหนี้สินที่ลดลงจากการชำระคืนเงินกู้บางส่วนจากเงินที่ระดมทุนได้ จะทำให้บริษัทลดต้นทุนทางการเงินไปได้มาก คาดปีหน้าแนวโน้มผลประกอบการน่าจะสดใสมาก

Avatar photo