ครึ่งปีแรก PTT ชะตัวทุกธุรกิจ แต่ทำไมครึ่งปีหลัง ถึงโบรกฯ มองเป็นบวก
บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT รายงานผลการดำเนินงานในงวดครึ่งปีแรกของปี 2566 ออกมาแล้ว พูดง่ายๆ คือปรับตัวลดลงทุกกลุ่มธุรกิจ แต่ความเห็นของบทวิเคราะห์ ส่วนใหญ่กลับยังมองในเชิงบวกต่อการลงทุนในหุ้น PTT ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น มีอะไรที่เรามองไม่เห็น บทความนี้สรุปมาให้แล้ว
ผลประกอบการ PTT ไตรมาส 2 และครึ่งปีแรก เป็นอย่างไร?
PTT รายงานไตรมาส 2/66 มีกำไรสุทธิ 20,107 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 48.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 38,843 ล้านบาท ส่งผลให้ช่วงครึ่งแรกปี 2566 บริษัทมีกำไรสุทธิ 47,962 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 24.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
สาเหตุหลักมาจากกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นที่มีผลการดำเนินงานปรับตัวลดลง โดยธุรกิจปิโตรเคมี เป็นผลมาจากกลุ่มโอเลฟินส์จากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์กับวัตถุดิบปรับลดลง ขณะที่การกลั่นมีผลขาดทุนจากต๊อกน้ำมันประมาณ 4,000 ล้านบาท
สำหรับกลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติมีผลการดำเนินงานลดลง จากธุรกิจโรงแยกก๊าซฯ ที่มีราคาขายเฉลี่ยที่ลดลงทุกผลิตภัณฑ์ตามราคาปิโตรเคมีในตลาดที่ใช้อ้างอิง รวมถึงธุรกิจท่อส่งก๊าซฯ ที่ลดลงจากการปรับอัตราค่าผ่านท่อ
นอกจากนี้ กลุ่มธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมก็มีผลการดำเนินงานลดลงตามรายได้จากการขายที่ลดลง เช่นเดียวกับกลุ่มธุรกิจอื่นๆ ที่มีผลการดำเนินงานลดลง ไม่ว่าจะเป็นการจำหน่ายของธุรกิจถ่านหิน กลุ่มธุรกิจน้ำมันและการค้าปลีก รวมถึงกลุ่มธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ
ครึ่งปีหลัง โบรกฯ มองเป็นบวก
แม้ว่าจะแย่ลงทุกกลุ่มธุรกิจ แต่นักวิเคราะห์ยังมีมุมมองไปในเชิงบวก เพราะแนวโน้มที่ดีขึ้นของผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลัง นำโดยธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมี และกำไรบางส่วนจาก Inventory และมองว่า PTT ไม่ใช่หุ้นที่แพงเกินไป ด้วย P/E ที่ 9.7 เท่า ถือว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว
บทวิเคราะห์ บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ เปิดเผยว่า PTT มีแนวโน้มจะฟื้นตัวได้ในครึ่งปีหลัง จากธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมีที่ฟื้นตัวและมีกำไรจากสต็อก อีกทั้งราคานํ้ามันที่สูงขึ้นจะส่งผลดีต่อ PTTEP ซึ่งงเป็นบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจสำรวจและผลิตน้ำมัน เนื่องจากราคาขายของปริมาณการขายเกือบ 30% ของบริษัทเชื่อมโยงกับราคานํ้ามัน ขณะเดียวกันคาดว่าธุรกิจก๊าซฯ จะรักษาโมเมนตัมเชิงบวกไว้ได้ เนื่องจากต้นทุนก๊าซฯ ทรงตัวและอาจจะลดลงอีกจากสัดส่วนอุปทานก๊าซฯ จากอ่าวไทยที่สูงขึ้น
สำหรับประมาณการกำไรปี 2566 ของ PTT ไว้ที่ 105,309 เพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อน และมองว่าหุ้นยังคงน่าสนใจ โดยแนะนำ “OUTPERFORM” ราคาเป้าหมายสิ้นปีที่ 45 บาทต่อหุ้น จาก valuation ในปัจจุบันที่ไม่แพง PBV 0.9 เท่า และ PE 9.7 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ย 10 ปีที่ 1.3 เท่า และ 14.6 เท่าตามลําดับ ส่วนอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลอยู่ที่ 5.6%
สถานะการเงินอันแข็งแกร่ง
ทั้งนี้ สถานะการเงินของ ปตท. และบริษัทย่อย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 3,421,537 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 5,905 ล้านบาท จากวันที่ 31 ธันวาคม 2565 โดยหลักจากเงินสด และรายการเทียบเท่าเงินสด และเงินลงทุนระยะสั้นที่เพิ่มขึ้นจากกิจกรรมดำเนินงานของกลุ่ม ปตท. รวมถึงที่ดิน อาคารและอุปกรณ์เพิ่มขึ้นโดยหลักจากสินทรัพย์เพื่อการสำรวจ และผลิตปิโตรเลียมในโครงการ G1/61 และ G2/61 ของ PTTEP และงานระหว่างก่อสร้างในโครงการ Clean Fuel Project ของ TOP
ขณะที่หนี้สินรวมมีจำนวน 1,829,145 ล้านบาท ลดลงจำนวน 52,794 ล้านบาท จากวันที่ 31 ธันวาคม 2565 โดยหลักมาจากหนี้สินตราสารอนุพันธ์ภาษีเงินได้ค้างจ่ายที่ลดลง รวมทั้งเจ้าหนี้การค้าลดลงจากปัจจัยด้านราคา และปริมาณซื้อที่ลดลง ขณะที่ส่วนของผู้ถือหุ้นมีจำนวน 1,592,392 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 58,699 ล้านบาท เนื่องจากกำไรสุทธิของ ปตท. และบริษัทย่อยในครึ่งปีแรก 2566 ด้วยการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการครึ่งหลังของปี 2565 จำนวน 0.70 บาทต่อหุ้น
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- กลุ่ม ปตท. ‘แข็งแกร่ง’ ครึ่งปี 66 ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว
- ‘ปตท.’ คว้า ‘7 รางวัลยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย’ สูงสุดในไทย ตอกย้ำ ‘ธรรมาภิบาลเป็นเลิศ’ ระดับสากล
- หุ้นครอบครัว ปตท. ‘กำไรไตรมาส 1’ พร้อมประเมินผลงานทั้งปี 2566