Sport

สะดุดเจ๊า!ไทยแผ่วปินส์ตามตีท้ายเกม1-1ลุ้นเข้ารอบนัดสุดท้าย

การแข่งขันฟุตบอล “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018” รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม บี ที่สนามปานาอัด สเตเดี้ยม ประเทศฟิลิปปินส์ เป็นเกมนัดที่ 3 ของ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ทีมจ่าฝูงกลุ่มที่ชนะมา2นัดรวดมี 6 คะแนน เจอ ทีมชาติฟิลิปปินส์ ที่แข่ง 2 นัดชนะรวดมี 6 แต้มเท่ากันแต่ผลต่างประตูได้เสียเป็นรองไทย

เกมนี้สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ได้รับรองสถานะการแข่งขันให้เป็นเกมระดับ FIFA International “A” Match เพื่อคิดคะแนนในการจัดอันดับโลกของฟีฟ่า อย่างเป็นทางการด้วย

MHO 1450
ภาพจาก : FA Thailand

เกมนี้ มิโลวาน ราเยวัช ส่ง ศุภชัย ใจเด็ด เป็นกองหน้าตัวจริงคู่กับ อดิศักดิ์ ไกรษร ดาวซัลโวที่กดไปแล้ว 7 ลูก ส่วนตรงกลางวางตัวหลักลงครบ ทั้ง ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, สรรวัชญ์ เดชมิตร, ธนบูรณ์ เกษารัตน์ พร้อมด้วย ปกเกล้า อนันต์ ส่วนแนวรับยังใช้ชุดเดิม ขณะที่ผู้รักษาประตูเกมนี้ให้ ฉัตรชัย บุตรพรม ลงเฝ้าเสา

ด้าน สเวน โกรัน อีริคส์สัน ส่ง ไมเคิล ฟาลเคสการ์ด ผู้รักษาประตูจากทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ลงเฝ้าเสา ส่วนแดนหน้านำโดย แพทริค ไรเชลต์, ฟิล ยังฮัสแบนด์ กัปตันทีม ส่วนตรงกลางมี สเตฟาน ชร็อค, มานูเอล อ็อตต์

เริ่มเกมมาสองนาที ทีมชาติไทยมาได้ทักทายก่อน จากจังหวะที่ อดิศักดิ์ ไกรษร ตัดบอลได้ตรงกลางสนาม ก่อนลักไก่ยิงไกลกว่า 50 หลา แต่ ไมเคิล ฟาลเคสการ์ด ยังถอยไปรับได้ทัน

นาที 16 ไทยมาได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะที่ สรรวัชญ์ เดชมิตร ยกบอลให้ อดิศักดิ์ ไกรษร วิ่งไปยิงด้วยขวาหลุดกรอบออกไป

นาที 19 ฟิลิปปินส์ได้ลุ้นบ้างจากจังหวะที่ไทยขึ้นบอลกันพลาด และเป็น จอห์น สตรอสส์ ที่ตัดได้ ก่อนลองยิงไกลแต่บอลเหินข้ามคานออกไป

นาที 30 เป็นโอกาสของฟิลิปปินส์จากจังหวะที่ แพทริค ไรเชลต์ ได้กระโดดโหม่งในเขตโทษแต่บอลลอยสูงทำให้ ฉัตรชัย บุตรพรม รับได้สบาย

MHO 0891
ภาพจาก : FA Thailand

นาที 37 ฟิลิปปินส์ได้ลุ้นจากจังหวะที่ตัดบอลได้กลางสนาม และเป็น สเตฟาน ชร็อค ที่ได้ลุยมาทางขวาก่อนเปิดเข้ากลางให้ ฟิล ยังฮัสแบนด์ ยิงไม่ดีมาเข้าทาง ไดสุเกะ ซาโตะ ยิงอีกครั้งหลุดกรอบออกไป

นาที 42 ฟิลิปปินส์ได้ลุ้นต่อเนื่อง จากจังหวะที่ ไทยสกัดบอลมาเข้าทาง มานูเอล อ็อตต์ แปด้วยขวาหน้าเขตโทษ แต่ไปตรงตัว ฉัตรชัย บุตรพรม จากนั้นไม่มีจังหวะลุ้นเพิ่มจบครึ่งแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0

ครึ่งหลังทั้งสองทีมไม่เปลี่ยนตัวผู้เล่น นาที 51 ฟิลิปปินส์ เกือบมาได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ สเตฟาน ชร็อค ที่เปิดจากทางขวาเข้ากลางให้ ฟิล ยังฮัสแบนด์ จับหนึ่งจังหวะแล้วยิงแต่ยังไปติดเซฟของ ฉัตรชัย บุตรพรม

นาที 56 เป็นโอกาสของไทยจากจังหวะที่ ฟิลิป โรลเลอร์ เติมมาทางขวาแล้วเปิดเข้ากลางให้ ศุภชัย ใจเด็ด ยิงเข้าไปให้ ช้างศึกนำก่อน 1-0

นาที 66 ฟิลปปินส์ เกือบด้ประตูตีเสมอจากจังหวะทะลุช่อง และเป็น จอห์น สตรอสส์ ที่ได้ยิงแต่ยังติดเซฟของ ฉัตรชัย บุตรพรม

นาทีที่ 67 ไทยเปลี่ยนตัวคนแรกส่ง ศศลักษณ์ ไหประโคน ลงไปเล่นแทน ธนบูรณ์ เกษารัตน์

MHO 1396
ภาพจาก : FA Thailand

นาที 81 ฟิลิปปินส์ มาได้ประตูตีเสมอจากจังหวะที่ โจวิน เบดิค ทำชิ่งกับจอห์น สตรออสส์ ก่อนยิงไปแฉลบผู้เล่นของไทย ชนเสาเข้าประตูไป ให้สกอร์กลับมาเท่ากัน 1-1

นาที 88 ไทยเปลี่ยนตัวอีกคนด้วยการส่ง ชนานันท์ ป้อมบุบผา ลงไปเล่นแทน อดิศักดิ์ ไกรษร รวมถึง มงคล ทศไกร ลงเล่นแทน ศุภชัย ใจเด็ด

ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติมจบเกม ฟิลิปปินส์ เสมอ ไทย 1-1 ทำให้ทั้งสองทีมมี 7 คะแนน จากสามนัดเท่ากัน แต่ไทยนำเป็นจ่าฝูงด้วยประตูได้เสียที่ดีกว่า และทำให้ ทั้งไทย, ฟิลิปปินส์ รวมถึง สิงคโปร์ ที่ชนะ ติมอร์ เลสเต 6-1 ต้องไปลุ้นในนัดสุดท้ายในการหาสองทีมผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ขณะที่ อินโดนีเซีย และ ติมอร์ เลสเต ตกรอบเป็นที่แน่นอนแล้ว

โปรแกรมนัดต่อไป ทีมชาติไทยจะทำการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2018 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มบี นัดสุดท้าย พบกับ ทีมชาติสิงคโปร์ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2561 เวลา 19.00 น. ถ่ายทอดสด ทางช่อง 7HD

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
ฟิลิปปินส์ : ไมเคิล ฟาลเคสการ์ด, คาร์ลอส เมอร์ก้า, มานูเอล อ็อตต์, ฟิล ยังฮัสแบนด์ (เจมส์ ยังฮัสแบนด์ 88), ไดสุเกะ ซาโตะ (เอียน แรมซีย์ 63), สเตฟาน ชร็อค, มาร์ติน สตูเบิ้ล, สเตฟาน พัลลา (โจวิน เบดิค 78), แพทริค ไรเชลต์, อัลบาโร่ ซิลบา, จอห์น สตรอสส์

ไทย : ฉัตรชัย บุตรพรม, ฟิลิป โรลเลอร์, เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว, พรรษา เหมวิบูลย์, กรกช วิริยอุดมศิริ, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, ปกเกล้า อนันต์, ธนบูรณ์ เกษารัตน์ (ศศลักษณ์ ไหประโคน 67), สรรวัชญ์ เดชมิตร, อดิศักดิ์ ไกรษร (ชนานันท์ ปอ้มบุบผา 88) , ศุภชัย ใจเด็ด (มงคล ทศไกร 90+2)

Avatar photo