นายสมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การเตรียมทีมชาติไทยในปีนี้ถือเป็นช่วงการปรับเปลี่ยนของทีมชาติไทย ทั้งทีมในร่มและชายหาด เพราะนักกีฬาหลักๆเริ่มมีอายุมากขึ้น คงต้องผลัดเปลี่ยนให้รุ่นใหม่ๆได้ขึ้นมาทดแทน เพราะเราต้องเตรียมทีมระยะยาวไปอีก 4 ปี เพื่อจะสานฝันไปสู่โอลิมปิกเกมส์ ให้ได้
“นอกจากด้านความเป็นเลิศแล้วเรายังมุ่งใช้กีฬาวอลเลย์บอลในการสร้างคน โดยให้โอกาสเยาวชนในชนบทได้เล่นกีฬาได้มีโอกาสรับการศึกษาผลักดันสู่ทีมชาติด้วย อย่างไรก็ตาม สำหรับนักกีฬาที่มีอายุมากแล้ว เราจะให้โอกาสมาเป็นพี่เลี้ยงหรือผู้ช่วยผู้ฝึกสอน คอยดูแลน้องๆให้ขึ้นมา เพราะคาดว่านักตบรุ่นเก่าหลายคนจะรับใช้ชาติได้ไม่ถึงโอลิมปิกเกมส์อีก 4 ปีข้างหน้า เพราะฉนั้นในส่วนของตัวนักกีฬาคงต้องมีการปรับเปลี่ยนกันอีกมาก”
“ในส่วนของผู้ฝึกสอนนั้น คิดว่า “โค้ชด่วน” ดนัย ศรีวัชรเมธากุล ยังมีศักยภาพพอที่จะทำทีมต่อได้ เพราะเขาเองมีความเข้าใจในตัวของนักกีฬาเป็นอย่างดี แต่เราจะมาเน้นในเรื่องการสร้างสมรรภาพทางร่างกายให้แข็งแกร่ง โดยอาจจะมีการหานักกายภาพดีๆระดับโลกมาคอยสร้างร่างกายนักกีฬาของไทยให้แข็งแกร่งต่อไป”
“ขณะที่ทีมลูกยางหญิงไทยนั้น เราต้องพยายามรักษามาตรฐานให้ทีมอยู่อันดับ 1 ใน 4 ของเอเชียให้ได้ เพื่อจะได้สิทธิ์ไปสู้ศึกคัดโอลิมปิกเกมส์ หรือรายการคัดชิงแชมป์โลก และต้องรักษาอันดับโลกไว้ไม่เกินอันดับ 24 เอาไว้ให้ได้ด้วย”
ด้าน “โค้ชด่วน” ดนัย ศรีวัชรเมธากุล กล่าวว่า “ขอบคุณสมาคมฯที่ยังเชื่อมั่นให้ตนได้ทำทีมชาติต่อ โดยการทำทีมในปีนี้ก็ต้องเน้นเรื่องการเก็บตัวให้ดีขึ้น พัฒนาเด็กใหม่ขึ้นมา ควบคู่กับการรักษามาตรฐานของทีมให้ผลงานไม่ตกลงด้วย ก็ถือเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับทีมไทยเรา และเราต้องวางแผนพัฒนานักตบระยะยาวเพื่อทำตามเป้าหมายอีก 4 ปีข้างหน้าเพื่อไปสู่โอลิมปิกเกมส์ต่อไป”
“จริงแล้วๆการที่เราพัฒนาทีมมาถึงจุดนี้ได้ต้องใช้ระยะเวลามานาน ส่วนการจะไปต่อจากนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะฉะนั้นคงต้องเข้าใจว่าหลายๆ อย่างคงต้องใช้เวลาในการสร้างทีมให้แข็งแกร่งที่สุด เพื่อให้เราไปสู้ระดับโลกได้อย่างสมบูรณ์แบบต่อไป”
