“อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน แบ๊กซ้ายทีมชาติไทยสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักเตะไทยคนแรกที่คว้าแชมป์บนแผ่นดินญี่ปุ่น หลังโยโกฮาม่า เอฟ. มารินอส ผงาดคว้าแชมป์เจลีก 2019
การคว้าแชมป์หนนี้ของ “โก๋อุ้ม” ไม่ได้เป็นแค่ตัวประกอบ เขาคือหนึ่งในแข้งตัวหลักของทีมที่ลงเล่นตัวจริงอย่างต่อเนื่อง
เส้นทางของแข้งไทยกับมารินอสเริ่มต้นไม่สวยงามนักเมื่อปรับตัวเข้ากับระบบของอังเก้ ปอสเตโคกลู กุนซือใหญ่ชาวออสเตรเลียไม่ได้ทำให้ 10 เกมแรกในเจลีกได้ลงเล่นไปแค่ 4 เกมเท่านั้น ที่เหลือได้แต่นั่งดูเพื่อนเล่นบางเกมไม่มีชื่อเลยด้วยซ้ำจนหลายคนคิดว่าเส้นทางของเขาคงถึงทางตันแล้ว ประสบการณ์ 1 ปีกับวิสเซล โกเบ คงช่วยอะไรเขาไม่ได้
การไม่ได้โอกาสไม่ได้ทำให้”เจ้าอุ้ม” ถอดใจ เขาสู้ทุกวันในสนามซ้อม เรียนรู้ทำความเข้าใจแท็กติกจนโอกาสมาถึงเขาคว้ามันเอาไว้ได้ตั้งแต่เกม 11 จนถึงนัดปิดซีซั่นเขาลงตัวจริงทุกนัด โดนเปลี่ยนตัวออกแค่ 4 นัดซึ่งเป็นท้ายเกมทั้งนั้น
สุดท้ายธีราทรลงเล่นไป 29 นัด ทำไป 3 ประตู 4 แอสซิส มีโอกาสยิง 13 ครั้ง ตรงกรอบ 4 ครั้ง โดนใบเหลือไป 4 ใบ…นี่คือผลงานของแบ๊กซ้าย
ใน 3 ประตูของอุ้มนัดหนึ่งในนั้นคือประตูเบิกร่องในเกมนัดตัดสินแชมป์เกมสุดท้ายกับเอฟซี โตเกียว ก่อนที่มารินอสจะเอาชนะขาด 3-0 ผงาดคว้าแชมป์มาครองอย่างยิ่งใหญ่เมื่อมาแซงนำจ่าฝูงใน 3 เกมสุดท้าย
ธีราทรคือนักเตะไทยคนแรกที่ได้แชมป์ในลีกญี่ปุ่น
ก่อนหน้านี้มีแข้งไทยไปเล่นมาแล้วหลายคนโดยนักเตะคนแรกที่เดินทางไปค้าแข้งที่ญี่ปุ่น คือ วิทยา เลาหกุล ลงเล่นให้มัตสึชิตะ หรือกัมบะ โอซากา ในปัจจุบัน จากนั้นก็มีไปเรื่อยๆก่อนที่จะมาบูมสุดคือการไปร่วมทัพคอนซาโดเล่ ซัปโปโร ของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ เมื่อปี 60
ปีต่อมาเป็นธีรศิลป์ แดงดา (ซานเฟรส ฮิโรชิม่า) กับ ธีราทร บุญมาทัน (วิสเซิล โกเบ) ตามไปและทั้งสามคนต่างทำผลงานเยี่ยมจนเป็นการเปิดตลาดให้นักเตะไทยสู่เจลีกมากขึ้นเรื่อย
โดยซีซั่นนี้นอกจาก ชนาธิป ทีเซ็นสัญญาถาวรกับซัปโปโรแล้วก็มีธีราทร กับมารินอส, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ กับโออิตะ ทรินิตะ รวมทั้งสองดาวรุ่ง จักรกฤษ ลาภตระกูล กับโทกุชิม่า วอร์ทิส ในเจลีก 2 และ ณัฐวุฒิ สุขสุ่ม กับทีมยู-23 เอฟซี โตเกียว
สำหรับ ธีราทร ต้องลุ้นกันว่าซีซั่นหน้าจะยังได้เล่นเจลีกต่อหรือไม่เมื่อสัญญายืมตัวหมดลงต้องกลับสู้ต้นสังกัดที่แท้จริงอย่างเอสซีจี เมืองทองฯ
แต่การที่เขาได้รับการยอมรับจากฟนบอลถึงกับทำป้ายร้องขอให้มารินอสเซ็นดาวเตะไทยรายนี้ร่วมทีมต่อจึงมีโอกาสที่จะได้เล่นในถิ่นนิสสัน สเตเดี้ยมต่อ
“โก๋อุ้ม” กับเส้นทางเจลีกไม่หยุดแค่นี้แน่ เพียงแต่จุดหมายจะเป็นทีมไหนเท่านั้นเอง
