“สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษหวิดทำสาวกกร่อยเมื่อได้ แฮร์รี่ เคน ช่วยชีวิตไว้ ถือเป็นครั้งแรกที่เจ้าตัวยิงในทัวร์นาเมนต์เมเจอร์ด้วย แถมเป็นการกดเบิ้ลเลยทีเดียว
เกมนี้อังกฤษจัดทัพใหญ่วาง แฮร์รี่ เคน ยืนล่าตาข่ายร่วมกับ ราฮีม สเตอร์ลิง โดยมี เดเล่ อัลลี่ ,เจสซี่ ลินการ์ด และจอร์แดน เฮนเดอร์สัน คุมกลาง ขณะที่ตูนิเซียตัวแทนจากทวีปแอฟริกามีทีเด็ดอย่าง วาห์บี คาซรี่ กัปตันทีม อานีซ บาดรี้ และนาอิม สลิต
เคนที่สวมปลอกแขนกับทีมทีมยิงให้อังกฤษขึ่นนำก่อนในนาที 11 แต่มาเสียจุดโทษจากวีเออาร์จากจังหวะที่ ไคล์ วอล์คเกอร์ เอาแขนไปฟาดหน้า ฟาเคร็ดดีน เบน ยุสเซฟ และเป็น เฟอร์จานี่ ซาสซี่ ที่ยิงเข้าไปแบบเฉียบขาดในนาที 35 จากนั้นทัพสิงโตคำรามครองเกมบุกต่อเนื่องแต่จบไม่คมและทำท่าจะได้แค่เสมอแต่ช่วงทดเลา “กัปตันเคน” มาโหม่งประตูชัยพาทีมเก็บสามแต้มแบบหืดจับ พร้อมจารึกชื่อนักเตะประวัติศาสตร์ทำประตูชัยช่วงทดเจ็บลูกแรกให้ทีมชาติอังกฤษในบอลโลก
ขณะที่อีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน เบลเยี่ยมที่ขนตัวท็อปยุโรปลงขยี้ปานามาเต็มสูบ ทั้งอาซาร์-เดอ บรอยน์ – ลูกากู – เมอร์เท่นส์ แต่รูปเกมเหมือนจะฝืดๆครึ่งแรกยังเสมอ 0-0 ก่อนจะมาเร่งเครื่องรัว 3 เม็ดในครึ่งหลัง จาก เมอร์เท่นส์ และ ลูกากู ศูนย์หน้าจาก แมนฯ ยูไนเต็ด กดคนเดียวสองเม็ด พาทีมรับน้องใหม่อย่างปานามาขาดลอย 3-0
สองประตูในเกมนี้ เท่ากับว่า โรเมลู ลูกากู ยิงใน 9 จาก 10 นัดหลัง รวม 14 ประตูให้ทีมชาติ พร้อมพาตัวเองขึ้นไปจ่อทุบสถิติการเป็นแข้งเบลเยี่ยมที่ยิงมากสุดในทัวร์นาเมนต์หลัก (เวิลด์ คัพ และ ยูโร) ของ แยน คูเลอม็องส์ ที่ทำไว้ 6 ลูก โดย “เร้ด รอม” ทำไปแล้ว 5 ลูก เทียบเท่า มาร์ก วิลม็อตส์
ส่วนในกลุ่ม เอฟ เกาหลีใต้เกือบยันเสมอสวีเดนได้หลังเกมรับของพวกเขาเล่นกันได้อย่างเหนียวแน่น แต่มาโดนจุดโทษจากการย้อนดูวีเออาร์ของผู้ตัดสิน และเป็น อันเดรียส กรานควิสต์ สังหารเข้าไปให้ทัพไวกิ้งเฉือนเอาชนะโสมขาวแบบหืดจับ 1-0 คว้า 3 คะแนนประเดิมเกมแรก ในศึกฟุตบอลโลก 2018 ซึ่งนับเป็นการคว้าชัยเกมเปิดหัวบอลโลกของพวกเขาตั้งแต่ปี 1958 ด้วย
การปราชัยเกมนี้เท่ากับว่า เกาหลีใต้ ชนะแค่เกมเดียวจากการเล่น เวิลด์ คัพ 10 นัดหลังสุด โดยเสมอ 3 และแพ้ถึง 6 เลยทีเดียว ขณะที่ประตูชัยของทัพไวกิ้งนับเป็นประตูจากจุดโทษลูกแรกของสวีเดนใน เวิลด์ คัพ นับตั้งแต่ปี 2002 ที่ เฮนริค ลาร์สสัน ตะบันไนจีเรีย
