สภาคณะกรรมการสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) อนุมัติให้มีการเปลี่ยนรูปแบบของศึกชิงแชมป์สโมสรโลก (ฟีฟ่า คลับ เวิลด์คัพ) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันศุกร์ที่ 15 มีนาคม ที่ผ่านมา
ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมาศึกชิงแชมป์สโมสรโลกจะแข่งกันในช่วงเดือนธันวาคมของทุกปี ซึ่งจะมีทีมที่ได้สิทธิ์เข้าแข่งขัน 7 ทีม โดยในจำนวนนั้นจะเป็นแชมป์ของรายการระดับทวีปจากทวีปต่างๆ 6 ทีม อย่างเช่น แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, แชมป์ โคปา อเมริกา, แชมป์ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นต้น ส่วนอีกทีมจะเป็นตัวแทนที่ชาติเจ้าภาพในปีนั้นๆ เลือกมา
อย่างไรก็ตาม ฟีฟ่า มีแนวคิดที่จะเปลี่ยนรูปแบบรายการนี้มาพักหนึ่งแล้ว และล่าสุดทางสภาของพวกเขาก็ไฟเขียวสำหรับเรื่องดังกล่าว โดยหลังจากนี้เป็นต้นไปศึกชิงแชมป์สโมสรโลกจะมีการเพิ่มจำนวนทีมจากเดิม 7 ทีม ไปเป็น 24 ทีม ซึ่งยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าทีมกลุ่มไหนที่จะได้โควตาลงเล่นบ้าง แต่ บีบีซี สื่อของอังกฤษเชื่อว่าในจำนวน 24 ทีมนั้น จะมีทีมที่มาจากชาติในทวีปยุโรป 8 ทีม
นอกจากนี้ ศึกชิงแชมป์สโมสรโลกแบบใหม่จะเปลี่ยนไปแข่งกันทุกๆ 4 ปีด้วย โดยจะเตะกันระหว่างช่วงเดือนมิถุนายน ถึงเดือนกรกฎาคมของทุกปี หรือก็คือในช่วงปิดฤดูกาลของบรรดาลีกดังๆ ในทวีปยุโรป ซึ่งการแข่งรูปแบบใหม่นี้จะเริ่มใช้เป็นครั้งแรกในปี 2021 ขณะเดียวกัน ก็ทำให้ศึกชิงแชมป์สโมสรโลกในปี 2019 กับ 2020 โดนยกเลิกการแข่งขันทันที
ทั้งนี้ ศึกชิงแชมป์สโมสรโลกรูปแบบใหม่จะเข้ามาแทนที่ทัวร์นาเมนต์ ฟีฟ่า คอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ โดยที่ผ่านมา ฟีฟ่า คอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ จะมีการจัดการแข่งขันในช่วง 1 ปีก่อนถึงศึกฟุตบอลโลก เพื่อเป็นการทดสอบความพร้อมของชาติเจ้าภาพฟุตบอลโลกแต่ละครั้งไปในตัว
ก่อนหน้านี้บรรดาสโมสรใหญ่ๆ ในทวีปยุโรปต่างคัดค้านแผนการเปลี่ยนรูปแบบศึกชิงแชมป์สโมสรโลกอย่างหนัก โดยผู้บริหารของหลายทีม อย่างเช่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, บาร์เซโลน่า, เรอัล มาดริด, ปารีส แซงต์-แชร์กแมง, อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม และ เซลติก ต่างเขียนจดหมายร่วมกันเพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยกับโปรเจคนี้ และขู่ว่าพวกเขาจะไม่ลงเล่นรายการนี้ด้วย แต่องค์กรลูกหนังโลกยังยืนยันที่จะเปลี่ยนรูปแบบต่อไป
ด้าน จานนี่ อินฟานติโน่ ประธาน ฟีฟ่า แสดงความหวังว่าเหล่ายอดทีมของทวีปยุโรปจะไม่บอยคอตตรายการนี้ตามคำขู่ พร้อมบอกว่าตนได้เจรจากับสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) เกี่ยวกับโปรเจกต์นี้เหมือนกัน ซึ่งอีกฝ่ายก็เห็นดีเห็นงามด้วย
“เราหวังว่าบรรดายอดทีมจะลงเล่นรายการนี้ และการเจรจาระหว่างเรากับ ยูฟ่า ก็เป็นไปได้ด้วยดีมากๆ แต่วันนี้หน้าที่ของเราคือการที่ต้องตัดสินใจเปลี่ยนรูปแบบการแข่งขัน เพราะเราต้องจัดการเกี่ยวกับเรื่ององค์กรและระบบ ตอนนี้มันเหลือเวลาอีกแค่ 2 ปีเท่านั้น (ก่อนที่ศึกชิงแชมป์สโมสรโลกรูปแบบใหม่จะเริ่มใช้เป็นครั้งแรก)”
