Royal News

โปรดเกล้าฯ ถอดยศ-เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ‘ตำรวจ’ 11 ราย

โปรดเกล้าฯ ถอดยศ-เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ข้าราชการ “ตำรวจ” 11 ราย

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถอดยศตำรวจและเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถอดยศข้าราชการตำรวจ ออกจากยศตำรวจ จำนวน 11 ราย ตามมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติ ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 ประกอบระเบียบสำนักงานตำวจแห่งชาติว่า ด้วยการถอดยศตำรวจ พ.ศ. 2547 ข้อ 1 (2) และ (4)

ถอดยศ

และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ได้รับพระราชทานทุกชั้นตรา ตามข้อ 6 และข้อ 7 (2) และ (4) ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ พ.ศ. 2548 ดังนี้

1. พลตำรวจตรี รณพงษ์ ทรายแก้ว ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2560 ซึ่งเป็นวันที่ ต้องคำพิพากษาของศาลถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุก เนื่องจากกระทำความผิดอาญา ฐานความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม ความผิดต่อร่างกาย ความผิดต่อเสรีภาพและเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นมหาวชิรมงกุฎ ประถมาภรณ์ช้างเผือก ประถมาภรณ์มงกุฎไทยทวีติยาภรณ์ช้างเผือก ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย ตริตาภรณ์ช้างเผือก ตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์ช้างเผือกเบญจมาภรณ์ช้างเผือก เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย และเหรียญจักรมาลา

2. พันตำรวจเอก พันธุ์ศิริ ศรีเพ็ญ ตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม 2558 ซึ่งเป็นวันที่ ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ เนื่องจากกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานกระทำการอันได้ชื่อว่าประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงและถูกดำเนินคดีอาญาในข้อหาชิงทรัพย์ ปลอมเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอมและเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย ตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์ช้างเผือกเบญจมาภรณ์ช้างเผือก และเบญจมาภรณ์มงกุฎไทย

3. พันตำรวจเอก อนุชน ชามาตย์ ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2560 ซึ่งเป็นวันที่ต้องคำพิพากษาของศาลถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุก เนื่องจากกระทำความผิดอาญา ฐานความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม ความผิดต่อร่างกาย ความผิดต่อเสรีภาพและเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นประถมาภรณ์มงกุฎไทย ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทยตริตาภรณ์ช้างเผือก ตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย และเบญจมาภรณ์มงกุฎไทย

4. พันตำรวจโท สมจิต แก้วพรม ตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม 2556 ซึ่งเป็นวันที่ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ เนื่องจากกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงและถูกดำเนินคดีอาญาฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นตริตาภรณ์ มงกุฎไทยจัตุรถาภรณ์ช้างเผือก จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย เหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้น 2 ประเภทที่ 2 เหรียญราชการชายแดน และเหรียญจักรมาลา

5. พันตำรวจโท ปัณณรุจน์ เรืองเกษมสัณห์ ตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม 2558 ซึ่งเป็นวันที่ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ เนื่องจากกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง กรณีต้องหาคดีอาญาฐานความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ความผิดต่อเจ้าพนักงานในการยุติธรรม ความผิดต่อร่างกายความผิดต่อเสรีภาพ ลักทรัพย์ และกรรโชก และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นตริตาภรณ์ช้างเผือกตริตาภรณ์มงกุฎไทย และจัตุรถาภรณ์ช้างเผือก

6. พันตำรวจโท ศักดินันท์ มูลมณี ตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2561 ซึ่งเป็นวันที่ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ เนื่องจากกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินกว่า 15 วัน โดยไม่มีเหตุอันสมควร และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นตริตาภรณ์ช้างเผือกตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก และเบญจมาภรณ์ช้างเผือก

7. ร้อยตารวจเอก ติณณภพ บุญช้าง ตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม 2559 ซึ่งเป็นวันที่ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ เนื่องจากกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินกว่า 15 วัน โดยไม่มีเหตุอันสมควร และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นจัตุรถาภรณ์ช้างเผือก จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย และเบญจมาภรณ์มงกุฎไทย

8. ร้อยตำรวจเอก ฉัตรชัย สอนสุด ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2561 ซึ่งเป็นวันที่ ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ เนื่องจากกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินกว่า 15 วัน โดยไม่มีเหตุอันสมควร และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นจัตุรถาภรณ์ช้างเผือก จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย และเหรียญทองช้างเผือก

9. ร้อยตำรวจเอก อดิศักดิ์ ขันละ ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2561 ซึ่งเป็นวันที่ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ เนื่องจากกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นจัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย และเบญจมาภรณ์มงกุฎไทย

10. ร้อยตำรวจโท ณรงกฤต สุนทรสุข ตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม 2558 ซึ่งเป็นวันที่ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ เนื่องจากกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินกว่า 15 วัน โดยไม่มีเหตุอันสมควร และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นเหรียญทองช้างเผือก

11. ร้อยตำรวจตรี สุวิราช สุ่มเนตร ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม 2558 ซึ่งเป็นวันที่ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ เนื่องจากกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินกว่า 15 วัน โดยไม่มีเหตุอันสมควร และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นเหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้น 2 ประเภทที่ 2 เหรียญราชการชายแดน และเหรียญทองช้างเผือก

ทั้งนี้ ข้าราชการตารวจทั้ง 11 รายดังกล่าว เป็นผู้ถูกถอนชื่อออกจากรายชื่อผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องแล้ว

ถอดยศ ถอดยศ ถอดยศ

ประกาศ ณ วันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2565
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo