‘ยุติธรรม’ เร่งจัดทำ ‘Watchlist’ บุคคลอันตราย หลังกฎหมายป้องกันทำผิดซ้ำ จะเริ่มบังคับใช้ 23 ม.ค. 66
วันที่ 26 ตุลาคม 2565 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุมผู้บริหารกระทรวง โดยมี นางสาวณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม อธิบดีกรมต่างๆ และผู้บริหารกระทรวง เข้าร่วมประชุม
นายสมศักดิ์ กล่าวถึงความคืบหน้า พ.ร.บ.มาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง หรือ กฎหมาย JSOC ว่า ได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เมื่อวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยจะมีผลบังคับใช้อีก 90 วัน คือ วันที่ 23 มกราคม 2566
จัดทำบัญชีกลุ่มบุคคลอันตราย
ดังนั้น ตนจึงสั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งเตรียมความพร้อม โดยเฉพาะการสร้างการรับรู้ และการจัด “Watchlist” (วอตช์ลิสต์) กลุ่มบุคคลอันตราย ให้ชัดเจน เพราะเริ่มมีผู้พ้นโทษ ออกมาก่อเหตุ แต่กลับไม่อยู่ในการจัดวอตช์ลิสต์
ทั้งนี้ นายชาญ วชิรเดช รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้กล่าวชี้แจงว่า ที่ผ่านมา กฎหมาย JSOC ยังไม่จบ จึงยังไม่มีการจัดวอตช์ลิสต์ทั้งหมด ซึ่งอาจทำให้ผู้พ้นโทษ บางรายที่ออกไปก่อเหตุนั้น ไม่ได้ถูกจัดอยู่ในวอตช์ลิสต์ รวมถึงบางราย อาจยังไม่ชัดเจนว่า จะเข้าความผิดข้อใด
ในการจัดกลุ่มวอตช์ลิสต์ผู้ต้องขัง ที่ต้องเข้าข่ายทั้งข้อ 1 ประกอบด้วย ความผิดเกี่ยวกับการก่อให้เกิดภยันตรายต่อประชาชน ,ความผิดเกี่ยวกับเพศ ,ความผิดเกี่ยวกับชีวิตและร่างกาย ,ความผิดเกี่ยวกับเสรีภาพและชื่อเสียง ,ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์
และข้อ 2 ประกอบด้วย ฆ่าเด็ก หรือ ข่มขืนเด็ก , ฆ่าข่มขืน ,ฆาตกรต่อเนื่อง ,กระทำผิดซ้ำซาก ,ฆาตรกรโรคจิต ,สังหารหมู่ ,ผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ ซึ่งบางราย เข้าหลักเกณฑ์เพียงข้อ 1 แต่ไม่เข้าเงื่อนไขข้อ 2 จึงไม่ถูกจัดวอตช์ลิสต์
ศึกษาจัดกลุ่มวอตช์ลิสต์ – ใส่กำไล EM
กระทรวงยุติธรรมต้องเร่งจัดทำวอตช์ลิสต์ ตามฐานความผิด 12 มาตรา ซึ่งจะตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา 1 ชุด เพื่อให้ศึกษาการจัดกลุ่มวอตช์ลิสต์ ในการกำหนดว่าแต่ละมาตรการความผิด จะต้องมีการจัดอยู่ในกลุ่มใด และต้องติดกำไลอีเอ็ม หลังพ้นโทษเป็นเวลาเท่าไร
โดยขอให้อนุกรรมการฯ เร่งสรุปความคืบหน้าทุกสัปดาห์ พร้อมขอให้มีการหยิบยกคดีสำคัญขึ้นมา เป็นเคสตัวอย่างด้วย เพื่อกำหนดรายละเอียด เช่น ต้องติดกำไล EM กี่ปี
ก่อนหน้านี้ การจัดวอตช์ลิสต์ทำโดยยังไม่มีกฎหมาย แต่ขณะนี้ มีกฎหมายป้องกันการกระทำผิดซ้ำแล้ว เพียงก่อเหตุรุนแรง ก็จะเข้ามาตราต่างๆ ของกฎหมายนี้ ที่ต้องถูกเฝ้าระวัง ซึ่งการใส่กำไล EM จะไม่เท่ากัน ต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการพิจารณา และอนุกรรมการ ที่ตั้งขึ้นมาศึกษาแนวทางไว้
นายสมศักดิ์ กล่าว่า ตนได้สั่งการให้เร่งด่วนที่สุด เพราะซีเรียสกับเรื่องนี้มาก รู้สึกเสียใจทุกครั้ง ที่ยังเจอข่าวผู้พ้นโทษ ออกมาก่อเหตุซ้ำ หรือ ข่าวสะเทือนขวัญ กับกลุ่มผู้หญิง
ดังนั้น กระทรวงยุติธรรมจึงจะเร่งจัดทำรายชื่อบุคคลอันตรายให้เร็วที่สุด เพื่อทำให้สังคม โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิง รู้สึกอุ่นใจ และปลอดภัยจากบุคคลอันตราย ที่เราช่วยเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
อ่านขาวเพิ่มเติม
- กรมขนส่งฯ เตือน! ใช้รถ ‘ป้ายทะเบียนปลอม’ โทษหนัก เจอคุก 5 ปี ปรับ 1 แสน
- ‘นักลงทุน’ เชื่อมั่น ‘เศรษฐกิจไทยฟื้น’ 9 เดือน ขอรับส่งเสริมการลงทุนแล้ว 1,247 โครงการ
- หนุน ‘ภาคธุรกิจไทย’ ใช้ดิจิทัลทรานส์ฟอร์มองค์กร กับ ‘AIS Biz App Mart’
