Politics

มท. สั่งเข้ม ‘พ.ร.บ.อาวุธปืน’ ยึด-เพิกถอน-เรียกคืน หากพบขาดคุณสมบัติ ในการครอบครอง

มท. สั่งเข้ม ‘พ.ร.บ.อาวุธปืน’ ยึด-เพิกถอน-เรียกคืน หากพบขาดคุณสมบัติ ในการครอบครอง

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า หลังจากหารือกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย จะบังคับใช้กฎหมาย มาตรา 66 ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน อย่างจริงจังต่อเนื่อง

มท.

ยึด เพิกถอน เรียกคืน

มาตราดังกล่าวให้สิทธิ์นายอำเภอ ในฐานะนายทะเบียนอาวุธปืน สามารถยึด เพิกถอนการครอบครอง และเรียกคืนอาวุธปืนจากเจ้าหน้าที่รัฐ หรือประชาชนที่ได้รับอนุญาตได้ทันที หากพบว่าเจ้าของปืนรายนั้น ๆ เป็นผู้ขาดคุณสมบัติในการครอบครองอาวุธปืน

เช่น มีพฤติกรรมก้าวร้าว คุกคาม ข่มขู่ หรือข้องเกี่ยวกับยาเสพติด เช่นเดียวกับอดีตนายตำรวจที่ก่อเหตุที่จังหวัดหนองบัวลำภู

แต่เปิดสิทธิ์ให้เจ้าของปืนเดิมที่ถูกเรียกคืนสามารถหาผู้มารับโอนปืนต่อได้ หากไม่มีผู้รับโอนต่อ นายทะเบียนปืนจะยึดมาจำหน่าย และส่งมอบเงินจากการจำหน่ายปืนคืนให้กับเจ้าของปืนภายหลัง ในรายที่เป็นอดีตข้าราชการเกษียณอายุ หากไม่มีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงก็ให้สิทธิ์ในการครอบครองต่อได้

ทั้งนี้ ที่ผ่านมากฎหมายรอบคอบรัดกุมและมีกติกาดีอยู่แล้ว แต่เกิดช่องโหว่ในการปฏิบัติและตรวจสอบอย่างจริงจังจากผู้บังคับบัญชา ทั้งที่ความจริงประชาชนถูกคุกคามข่มขู่จากผู้ที่มีอาวุธปืน ก็สามารถไปร้องเรียนให้เพิกถอนการมีอาวุธปืนได้เช่นกัน

มท.

ประสานการทำงานร่วมกัน หน่วยงานและท้องถิ่น

ผลจากการพูดคุยกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเบื้องต้น จะมีมาตรการและแนวทางร่วมกัน ในการป้องกันปราบปรามระหว่างนายอำเภอในฐานะนายทะเบียนอาวุธปืนและเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากตำรวจจะทราบว่าผู้ที่ได้ครอบครองอาวุธปืนเอาไว้ แต่ถูกดำเนินคดี ซึ่งจะเป็นเหตุผลให้ทำการเพิกถอน และเรียกคืนอาวุธปืนได้

สำหรับคุณสมบัติผู้ที่มีสิทธิ์ครอบครองอาวุธปืน เช่น เจ้าหน้าที่หน่วยข่าว เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันปราบปราม และผู้ที่ต้องดูแลทรัพย์สิน โดยการขอมีปืนจะต้องมีหนังสือรับรองขอมีอาวุธปืนจากผู้บังคับบัญชา ส่วนเอกชนต้องมีหลักฐานการตรวจสอบประวัติอาชญากรจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นต้น

ขอบคุณข้อมูล รายการวิทยุ fm 100.5 อสมท และ สำนักข่าวไทย

มท.

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo