Politics

ผุด 7 แนวทาง กวาดล้างยาเสพติด มท. ขีดเส้น 31 ต.ค. รู้ตัวเลข ผู้เสพ-ผู้ค้า ทั่วประเทศ

ผุด 7 แนวทาง กวาดล้างยาเสพติด ปลัดมหาดไทย ขีดเส้น 31 ต.ค. รู้ตัวเลข ผู้เสพ-ผู้ค้า ทั่วประเทศ 

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานร่วมการประชุม หารือแนวทางการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยมี นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พลตำรวจโท สรายุทธ สงวนโภคัย ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยา เสพติด นายแพทย์ศักดา อัลภาชน์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงสาธารณสุข และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม

ยาเสพติด

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ตามที่พี่น้องประชาชนชาวไทยและคนทั่วโลกได้รับทราบโดยทั่วกันแล้วว่าได้เกิดเหตุการณ์โศกนาฏกรรมสร้างความเศร้าเสียใจไปทั่วประเทศและทั่วโลก ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากผลกระทบจากปัญหายา เสพติด จึงเป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนที่ต้องช่วยกันนำเหตุการณ์ที่เศร้าสลดสะเทือนขวัญในครั้งนี้ มาร่วมกันพูดคุยกำหนดมาตรการ เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมในการแก้ไขปัญหา ทั้งในเชิงป้องกัน ปราบปราม และบำบัดรักษา

ขีดเส้น 31 ต.ค. ต้องรู้ข้อมูล ผู้เสพผู้ค้า ทั้งหมด

ทั้งนี้ จากการสำรวจความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในการแก้ไขปัญหาความยากจนด้วยแพลตฟอร์ม ThaiQM ของกรมการปกครอง ซึ่งจากฐานข้อมูลพบว่า มีพี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากปัญหายา เสพติด ตัวเลขสูงถึง 279,094 ครัวเรือน ใน 31,744 หมู่บ้าน ซึ่งถ้าเราเอาจำนวนสมาชิกในครอบครัวมาคูณ จะทำให้ตัวเลขประชาชนที่ได้รับผลกระทบถึงเป็นหลักล้านคน

กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครอง ขีดเส้นตายว่า ภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2565 เราจะมีข้อมูลผู้เสพผู้ค้ายาทั่วประเทศในเบื้องต้น เพื่อนำมาใช้วางแผนการแก้ไขปัญหาร่วมกัน

โดยมี ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ เป็นแม่งานในการค้นหาผู้ที่ยุ่งเกี่ยวกับยา เสพติดทุกตำบล/หมู่บ้าน ทั้งผู้ใช้ ผู้เสพ และผู้ค้า ด้วยการสร้างการมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชนร่วมกับฝ่ายบ้านเมือง ดำเนินมาตรการปราบปราบควบคู่กับการค้นหาข้อมูล

ยาเสพติด

ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทย จะรวบรวมข้อมูลจากพื้นที่ที่มีการดำเนินการปราบปราบเกี่ยวกับยา เสพติด มาเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้กับสังคม เพื่อสร้างความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนว่าเราไม่นิ่งนอนใจและเอาจริงเอาจัง และเพื่อให้เกิดความร่วมไม้ร่วมมือของพี่น้องประชาชน  ในการให้ข้อมูลกับฝ่ายบ้านเมืองเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้ประสานทุกจังหวัดและอำเภอ สร้างความเข้าใจกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งในการให้การสนับสนุนในด้านวัสดุอุปกรณ์เพื่อใช้ในการตรวจหาสารเสพติด ซึ่งมีระเบียบกระทรวงมหาดไทยรองรับภารกิจของ อปท. ในเรื่องดังกล่าวอยู่แล้ว

กระทรวงมหาดไทยมีความมุ่งมั่นในการ ประกาศสงครามกับปัญหายา เสพติดทุกประเภท ทุกรูปแบบอย่างจริงจัง ด้วยการเป็นกลไกหลักในการประสานงานระดับพื้นที่ โดยขอให้มั่นว่าฝ่ายปกครองจะเต็มที่ ทั้งการกวาดบ้านตนเอง คนของเราต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับยา เสพติด และพุ่งเป้าทำทุกมาตรการอย่างจริงจัง

ยาเสพติด

ถ้าประชาชนยังไม่พอใจ ถือว่าไม่ผ่านการประเมิน

พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากสถิติพบว่า ในปัจจุบันสถานการณ์ผู้เสพมีแนวโน้มเพิ่ม และมีผู้เสพจำนวนมากยังไม่ได้เข้ารับการบำบัดในทางสาธารณสุข ในจำนวนเหล่านั้น มีกลุ่มผู้เสพที่เกิดอาการทางจิตเวช มีภาวะคุ้มคลั่ง ทำร้ายร่างกายบุพการี คนใกล้ชิด และพี่น้องประชาชน ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดและผู้กำกับการสถานีตำรวจทั่วประเทศ ต้องเข้าไปเยี่ยมชุมชนบ่อยครั้ง เพื่อสร้างความสัมพันธ์และความเชื่อมั่น อันจะเกิดความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน

ยาเสพติด

ที่ผ่านมา ตำรวจ มหาดไทยและ ฝ่ายปกครองในทุกพื้นที่ ทำงานประสานบูรณาการกันอย่างต่อเนื่อง แต่แม้ว่าเราจะทำงานในการป้องกันและปราบปรามยา เสพติดหนักเพียงใด ถ้ายังไม่เป็นที่พึงพอใจของพี่น้องประชาชน ก็ถือว่าประเมินไม่ผ่าน ต้องยึดเอาความพึงพอใจของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ต้องค้นหาให้เร็ว เพื่อจะได้แก้ปัญหาด้วยกัน

ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า จะต้องกวาดล้างยา เสพติด ในวงการตำรวจ ด้วยความร่วมมือและบูรณาการระดับพื้นที่ร่วมกันอย่างจริงจัง เพื่อให้การแก้ไขปัญหาประสบความสำเร็จอย่างจริงจังและยั่งยืน

ยาเสพติด

7 แนวทาง กวาดล้างยาเสพติด

ด้าน นายมานัส ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า ปี 2566 เราเตรียมความพร้อมดำเนินการตามนโยบายชาติ แผนปี 2566-2570 โดยมีนโยบายและแผนในการบริหารจัดการ รวมถึงการเตรียมการดำเนินการกับผู้เสพที่มีอาการทางจิต โดย ป.ป.ส. ได้มีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและมีข้อสรุปแนวทาง คือ

  1. เราจะต้องปิดล้อมตรวจค้นเพื่อมุ่งหาข้อมูลเป้าหมาย โดยดำเนินการหาทั้งผู้เสพ ผู้ค้า และผู้หลบหนีหมายจับ รวมทั้งขยายผลยึดทรัพย์สินผู้ที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศ
  2. การดำเนินการตามข้อร้องเรียน เพื่อเป็นข้อมูลสนับสนุนการดำเนินการปิดล้อมตรวจค้นและวางเป้าหมายการดำเนินการ
  3. การขยายผล ภายหลังจากการกระทำความผิด โดยเมื่อมีการจับกุมต้องมีการขยายผลหาที่มาและเบื้องหลัง
  4. การบูรณาการการทำงานร่วมกันโดยมี ป.ป.ส. เป็นแกนกลางในการบูรณาการทำงานร่วมกัน
  5. ข้อมูลต่าง ๆ ที่แต่ละหน่วยมีอยู่ ต้องมาบูรณาการดำเนินการร่วมกัน
  6. การจับกุมบุคลากรของรัฐที่ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดทุกกรณี และ
  7. การบริหารจัดการด้านงบประมาณ

ยาเสพติด

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo