Politics

แชร์กันว่อน! เอกสาร ‘มีชัย’ แจงปม ‘นายกฯ 8 ปี’ ให้เริ่มนับปี 60

โลกโซเชียลแห่แชร์ เอกสาร “มีชัย ฤชุพันธุ์” เสนอความเห็นกรณี “นายกฯ 8 ปี” ระบุ เริ่มนับตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2560 อันเป็นวันที่รัฐธรรมนูญมีผลใช้บังคับ

จากกรณี ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเสียงข้างมากให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี เป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยปม “นายกฯ 8 ปี” และ ได้ขอคำชี้แจงจากนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และนายปกรณ์ นิลประพันธุ์ เลขานุการ กรธ. เกี่ยวกับบันทึกการประชุม กรธ. ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งทั้งนายมีชัย และนายปกรณ์ ได้ส่งคำชี้แจงไปยังศาลรัฐธรรมนูญเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น

ล่าสุด วันนี้ (6 ก.ย.) มีรายงานว่า ในโลกโซเซียลได้มีการเผยแพร่เอกสารของนายมีชัย ที่ได้เสนอความเห็นเกี่ยวกับมาตรา 264 ของรัฐธรรมนูญ กรณีการนับวาระการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี จำนวน 3 หน้า โดยมีเนื้อหาเห็นว่า วาระของคณะรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีดังกล่าว เริ่มนับตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2560 อันเป็นวันที่รัฐธรรมนูญมีผลใช้บังคับ

นายกฯ 8 ปี

ความเห็นของนายมีชัย กรณี “นายกฯ 8 ปี” 

1. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2560 ตามที่ปรากฎในพระบรมราชโองการในวรรคห้า และถูกต้องตรงตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 ผลบังคับจึงมีตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2560 เป็นต้นไป และไม่อาจมีผลไปถึงการใด ๆ ที่ได้ดำเนินการมาแล้วโดยชอบ ก่อนวันที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยนี้ใช้บังคับ เว้นแต่จะมีบทบัญญัติไว้เป็นการเฉพาะ

2. ในส่วนที่เกี่ยวกับคณะรัฐมนตรีนั้น รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ได้บัญญัติเรื่องคุณสมบัติ (มาตรา 160 ) ที่มา (มาตรา 88) วิธีการได้มา (มาตรา 159 และมาตรา 272 ) กรอบในการปฏิบัติหน้าที่ (มาตรา 164 ) ระยะเวลาในการดำรงตำแหน่ง (มาตรา 158 วรรคสี่) และผลจากการพ้นจากตำแหน่ง (มาตรา 168 ) ไว้แตกต่างจากรัฐธรรมนูญที่เคยมีมา ส่วนใหญ่เป็นไปในทางจำกัดสิทธิ และเพิ่มความรับผิดชอบ

บทบัญญัติต่าง ๆ เหล่านั้น จึงไม่อาจนำไปใช้กับบุคคลหรือการดำเนินการใด ๆ ที่ได้กระทำไปโดยชอบแล้ว ก่อนที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มีผลใช้บังคับ เว้นแต่จะมีบทบัญญัติกำหนดไว้เป็นประการอื่นโดยเฉพาะ โดยหลักทั่วไปกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่กำหนดขึ้น ย่อมต้องมุ่งหมายที่จะใช้กับคณะรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560

3. อย่างไรก็ตาม การที่จะได้มาซึ่งคณะรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2560 จะกระทำได้ก็ต่อเมื่อการเลือกตั้งทั่วไป มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภาที่จะต้องแต่งตั้งขึ้นใหม่ตามรัฐรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ก่อน

นายกฯ 8 ปี
มีชัย ฤชุพันธุ์

แต่ประเทศไม่อาจว่างเว้นการมีคณะรัฐมนตรีเพื่อบริหารประเทศได้ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีบทเฉพาะกาล เพื่อกำหนดให้การบริหารราชการแผ่นดินสามารถดำเนินต่อไปได้โดยไม่ติดขัด จึงได้มีบทบัญญัติมาตรา 264 บัญญัติขึ้นเป็นการเฉพาะว่า

“ให้คณะรัฐมนตรีที่บริหารราชการแผ่นดินอยู่ในวันก่อนวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้เป็นคณะรัฐมนตรีตามบทบัญญัติแห่งรัธธรรมนูญนี้ จนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่ภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกตามรัฐธรรมนูญนี้จะเข้ารับหน้าที่…”

โดยมีบทบัญญัติผ่อนปรนเกี่ยวกับคุณสมบัติและการปฏิบัติหน้าที่บางประการไว้ให้เป็นการเฉพาะ

4. โดยผลของมาตรา 264 ดังกล่าว คณะรัฐมนตรีรวมทั้งนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งอยู่เฉพาะ ในวันก่อนวันประกาศใช้ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 จึงเป็นคณะรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ตั้งแต่วันที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2560 ใช้บังคับคือ วันที่ 6 เมษายน 2560

และโดยผลดังกล่าว บทบัญญัติทั้งปวงของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 รวมทั้งบทเฉพาะกาลที่ผ่อนปรนให้ จึงมีผลต่อคณะรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2560 อันเป็นวันที่รัฐธรรมนูญมีผลใช้บังคับเป็นต้นไป และระยะเวลาตามมาตรา 158 วรรคสี่ จึงเริ่มนับตั้งแต่บัดนั้น คือ วันที่ 6 เมษายน เป็นต้นไป

ขณะเดียวกัน นายมีชัย ยังได้ชี้แจงถึงรายงานการประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญครั้งที่ 500 วันศุกรที่ 7 กันยายน 2561 ในส่วนที่เกี่ยวกับคำกล่าวของตนเองนั้น เป็นการจดรายงานที่ไม่ครบถ้วน เป็นการสรุปตามความเข้าใจของผู้จด คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญยังไม่ได้ตรวจรับรองรายงานการประชุมนั้น เพราะเป็นการประชุมครั้งสุดท้าย และคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญได้ประกาศสิ้นสุดการปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 12 กันยายน 2561

นายกฯ 8 ปี

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo