“ศักดิ์สยาม” เร่งรัดติดตามแก้ปัญหาจราจรบนทางพิเศษ พบ 5 ปัญหาทำรถติด พร้อมเสนอ 32 โครงการ พร้อมเร่งสร้าง “มอเตอร์เวย์ศรีนครินทร์-สุวรรณภูมิ ,รังสิต – บางปะอิน” แก้ปัญหา เตรียมเสนอ คจร. ภายในเดือน ก.พ.นี้
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยหลังเป็นประธานประชุมติดตามนโยบายการแก้ไขปัญหาการจราจรบนทางพิเศษ ว่า จากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้ กระทรวงคมนาคมดำเนินการศึกษาแนวทางการดำเนินการที่เหมาะสมและเป็นไปได้ เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดในภาพรวมทั้งระบบ รวมทั้งศึกษาแนวทางการดำเนินโครงการก่อสร้างทางด่วนในเส้นทางอื่น ๆ เพิ่มเติมให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี
ล่าสุดทาง การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ได้รายงานความก้าวหน้าของการศึกษาเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรบนโครงข่ายทางพิเศษในภาพรวมทั้งระบบ ขณะนี้อยู่ระหว่างนำเสนอคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน คาดว่าจะมีการประชุมเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ก่อนนำเสนอครม.
จากผลการศึกษาปัญหาการจราจรบนทางพิเศษ พบว่า ปัญหาการจราจรบนทางพิเศษ มีลักษณะของปัญหาแบ่งได้ 5 ลักษณะ
1. ปัญหาด้านความจุของทางพิเศษไม่เพียงพอ
2. ปัญหาจุดตัดกระแสจราจรบริเวณทางร่วมและทางแยก
3. ปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณทางลงทางพิเศษ
4. ปัญหาการไหลเวียนจราจรบริเวณด่านเก็บค่าผ่านทาง
5. ปัญหาจุดคอขวดทางกายภาพบนทางพิเศษ
โดยมีเส้นทางหลักที่มีปัญหาการจราจรบนทางพิเศษ 3 เส้นทาง ประกอบด้วย เส้นทางที่ 1 ทางพิเศษศรีรัช ช่วงงามวงศ์วาน-พญาไท-พระราม 9 , เส้นทางที่ 2 ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ช่วงมักกะสัน-ท่าเรือ-บางนา , และ เส้นทางที่ 3 ทางพิเศษฉลองรัช
นอกจากนี้ กทพ. ได้มีการวิเคราะห์ความเหมาะสม และจัดลำดับความสำคัญ เพื่อจัดทำแผนการแก้ไขปัญหาการจราจรในภาพรวมทั้งระบบ โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่
1. โครงการแก้ไขปัญหาการจราจรบนโครงข่ายทางพิเศษในปัจจุบัน จำนวน 21 โครงการ แบ่งเป็น แผนระยะที่ 1 ( ปี 2565-2569) จำนวน 16 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวม 38,132 ล้านบาท มีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ 16.35% และแผนระยะที่ 2 ( ปี 2570 เป็นต้นไป) จำนวน 5 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวม 9,401 ล้านบาท มีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ 25.77%
2. โครงการทางพิเศษเพิ่มเติมที่จะช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรและเพิ่มประสิทธิภาพการเดินทาง จำนวน 11 โครงการ แบ่งเป็น แผนระยะที่ 1 (ปี 2565-2569) จำนวน 5 โครงการ และแผนระยะที่ 2 (ปี 2570 เป็นต้นไป) จำนวน 6 โครงการ ซึ่งทั้ง 11 โครงการมีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจอยู่ระหว่าง 15.18% ถึง 31.28%
นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ปัจจุบัน กทพ. อยู่ระหว่างการพิจารณาแหล่งเงินทุนในการพัฒนาโครงการแต่ละโครงการให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น เช่น การบริหารสัญญาของโครงการทางพิเศษเดิม การให้เอกชนร่วมลงทุน หรือการใช้แหล่งเงินจากกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (Thailand Future Fund : TFF) รวมทั้ง การทำงานอื่นคู่ขนาน ประกอบด้วย การศึกษาความเหมาะสมทางเศรษฐกิจ วิศวกรรม และสิ่งแวดล้อม และการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม เป็นต้น เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามแผนงานและกรอบระยะเวลาที่ได้วางแผนไว้
จากรับทราบปัญหาต่างๆและแนวทางแก้ไขปัญหาแล้วเห็นว่า มีนโยบายให้ กรมทางหลวง(ทล.) และ กทพ. หารือร่วมกันในการเร่งรัดดำเนินการโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายศรีนครินทร์สุวรรณภูมิ (M7) รวมทั้ง ให้ ทล. เร่งรัดดำเนินการการศึกษาโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ส่วนต่อขยายทางยกระดับอุตราภิมุข ช่วงรังสิต – บางปะอิน (M5) เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับเข้าสู่กระบวนการการร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (Public Private Partnership หรือ PPP) ต่อไป
นอกจากนั้น ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟกับสะพานข้ามทางแยก รวมทั้งทางขึ้น – ลง ของทางพิเศษ เช่น จุดขึ้น – ลงทางพิเศษที่อยู่ใกล้บริเวณทางรถไฟฟ้าสายสีแดง จุดขึ้น – ลงทางพิเศษบริเวณทางแยกยมราช และบริเวณศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เริ่มวันนี้! เปิดขึ้นฟรีทางด่วน กลับบ้านช่วงปีใหม่ 5 วัน
- วันหยุดนี้!! กทพ.เปิดให้วิ่งฟรีทางด่วน 3 สายทาง
- รู้ยัง? 12 สิงหาคมนี้ขึ้นทางด่วนฟรี 3 สาย เริ่ม 00.01-24.00 น.