ทันทีที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธาน มีมติแต่งตั้งนายสนธยา คุณปลื้ม หัวหน้าพรรคพลังชล เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง และนายอิทธิพล คุณปลื้ม อดีตนายกเมืองพัทยา เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นทันทีโดยเฉพาะในโลกออนไลน์ ที่แสดงความคิดเห็นกันแบบไม่ยั้งมือ ความเห็นส่วนใหญ่มองไปที่การตั้งพรรคการเมืองใหม่
แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะออกมายืนยันว่าการตั้งนายสนธยา มาตามขั้นตอนการเสนอจากรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี พร้อมกับบอกว่า
“ต้องการให้มาเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง และให้คำปรึกษา แต่ไม่ได้หมายความว่าเอามาหาผลประโยชน์อะไร วันนี้กำลังเดินหน้าไปสู่ตรงนั้น จึงต้องมีคนที่รู้เรื่องเหล่านี้ มาให้คำปรึกษาว่าเป็นอย่างไร เพราะไม่รู้ว่าการเมืองทำกันมาอย่างไร”
การอธิบายเหตุผลของ พล.อ.ประยุทธ์ ดูเหมือนไม่ได้ช่วยอะไรสักเท่าไหร่กับเสียงวิจารณ์ ที่มองว่าจะนำไปสู่การตั้งพรรคการเมืองใหม่เสียมากกว่า สอดคล้องกับก่อนหน้านี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ มีแนวคิดที่จะตั้งพรรคการเมืองใหม่ สนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนนอก หลังการเลือกตั้งครั้งหน้า
พร้อมกันนี้ยังได้วางตัวให้ นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นหัวหน้าพรรคชั่วขณะ และให้ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นเลขาธิการพรรคมาแล้ว ถือว่าเหตุการณ์ตั้งนายสนธยาเข้ามาเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองก็เกิดขึ้นในเวลาใกล้เคียงกัน
ก่อนจะมาถึงวันนี้มีผู้ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า ก่อนหน้านี้นายสมคิด และทีมงาน เดินสายเจรจาจิบกาแฟกับแกนนำกลุ่มการเมืองต่างๆมาแล้ว 5-6 กลุ่ม ผลที่ได้รับดูเหมือนทุกกลุ่มก็รับฟังข้อหารือด้วยดี แต่จะมีสักกี่กลุ่มที่จะทุ่มสุดตัวไหลรวมพรรคการเมืองใหม่
อย่างกรณีของนายสนธยา ดูเหมือนเป็นกลุ่มแรกที่เปิดหน้า รับหน้าที่เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมืองแบบเปิดเผย จะด้วยข้อเสนอแลกเปลี่ยนอะไรตรงนี้ นายสนธยาเท่านั้นที่ย่อมรู้ดีว่ารับหน้าที่นี้เพื่ออะไรมีความจำเป็นอย่างไร คงจะมีเหตุผลทีเดียว อาจได้อย่างเสียอย่าง จะใช่ผลักดันโครงการเขตพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) หรือไม่
ไม่เฉพาะแต่กลุ่มนายสนธยา จากพลังชน แต่ยังมีการทาบทามกลุ่ม นายสรอรรถ กลิ่นประทุม แกนนำกลุ่มราชบุรี แต่ดูเหมือนกลุ่มนี้อาจจะส่ง นายบุญลือ ประเสริฐโสภา เข้าไปเพราะนายบุญลือ คนใกล้ชิดของนายสรอรรถ รวมไปถึงการชักชวนคนในกลุ่มพรรคภูมิใจไทย และกลุ่มมัชฌิมา
“ตอนนี้ดูเหมือนกลุ่มพลังชน ของนายสนธยา ก็เข้าไปอยู่กับรัฐบาลแล้ว การทำแบบนี้ดูเหมือนเป็นสัญญลักษณ์ แบบไม่ได้รังเกียจนักการเมือง เป็นการเอานักการเมืองเข้าไปร่วมกิจกรรม ก่อนหน้านี้ไม่เคยเอาเข้ามาร่วมเลย เสมือนตอนนี้กำลังมีทุกกลุ่มเข้าร่วม”แหล่งข่าวให้ความเห็น
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มที่ยังไม่แสดงตัวชัดเจนอย่างกลุ่มของ นายไชยา สะสมทรัพย์ เช่นเดียวกับกลุ่มของนายสุชาติ ตันเจริญ ก็ดูเหมือนมีการนัดคุยจิบกาแฟกันไปแล้ว
ส่วนที่กลุ่มที่ยังไม่แสดงตัวทั้งๆที่มีการชักชวนไปบ้างแล้ว เพราะยังไม่มั่นใจว่าจะมีการเลือกตั้งจริงวันนี้ยังไม่มีรูปตัวแบบหรือกฎหมาย ที่ออกมาชัดเจน การที่กฎหมายยังไม่ออกมาให้เห็นความชัดเจน หากกลุ่มไหนรีบกระโดดไปก่อนผู้อื่น ยังไม่มั่นใจว่าจะไปถึงจุดหมายปลายทางได้
ฉะนั้นการเมืองเวลานี้แม้จะมีความเคลื่อนไหวสักแค่ไหน แต่ความไม่แน่นอนยังมีอยู่สูงนั่นเอง ยิ่งคนที่ยังไม่เคยทำพรรคการเมืองมาก่อนตอนนี้อยู่ในอาการวิ่งวุ่นเสียมากกว่า
