“หญิงหน่อย” มาแรง!! ผลสำรวจหนุนขึ้่นนั่ง “นายกรัฐมนตรี” แทน “บิ๊กตู่” พร้อมเชียร์ “พรรคเพื่อไทย” เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “ประชาชนอยากได้ใครเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ตามกฎหมายการเลือกตั้งปัจจุบัน (ครั้งที่ 5)” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 20 – 22 พฤศจิกายน 2561 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,260 หน่วยตัวอย่าง
จากการสำรวจเมื่อถามถึงพรรคการเมืองที่ประชาชนอยากให้เข้ามาเป็นรัฐบาลในการเลือกตั้งครั้งต่อไป พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ 61.67% ระบุว่า พรรคการเมืองพรรคใหม่ ๆ เพราะ อยากเห็นการเปลี่ยนแปลง มีคนใหม่ ๆ นโยบายใหม่ ๆ แนวคิดใหม่ ๆ เข้ามาบริหารและพัฒนาประเทศ ขณะที่บางส่วนระบุว่า เบื่อการบริหารงานของพรรคการเมืองพรรคเก่า และ 8.33% ระบุว่า พรรคการเมืองพรรคเก่า เพราะ มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ ชอบการบริหารงานแบบเก่า ๆ บริหารงานดีอยู่แล้ว การทำงานมีระบบ เคยเห็นผลงานมาแล้ว มั่นใจในผลงาน รู้จักและคุ้นเคยกับประชาชนเป็นอย่างดี มีความเข้าใจและสามารถแก้ไขปัญหาได้ดีกว่าพรรคการเมืองพรรคใหม่
ด้านบุคคลที่ประชาชนอยากให้เป็นนายกรัฐมนตรี ตามกฎหมายการเลือกตั้งปัจจุบัน (10 อันดับแรก) พบว่า ส่วนใหญ่ อันดับหนึ่ง 25.16% ระบุว่าเป็น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (พรรคเพื่อไทย) รองลงมา 24.05% ระบุว่าเป็น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 14.52% ระบุว่าเป็น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ (หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่) 11.67% ระบุว่าเป็นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์) 6.90% ระบุว่าเป็น พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส (หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย) 5.32% ระบุว่าเป็น พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ (หัวหน้าพรรคเพื่อไทย) 4.29% ระบุว่าเป็นนายชวน หลีกภัย (อดีตนายกรัฐมนตรี) 1.35% ระบุว่าเป็น หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล (หัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย) 1.19% ระบุว่าเป็น นายอุตตม สาวนายน (หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ) และสุดท้าย 1.11% ระบุว่าเป็นนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ (รองนายกรัฐมนตรี)
เมื่อถามถึงพรรคการเมืองที่ประชาชนอยากให้ได้คะแนนเสียงมากที่สุด และเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล (10 อันดับแรก) พบว่าส่วนใหญ่ 31.75% ระบุว่าเป็น พรรคเพื่อไทย 19.92% ระบุว่าเป็น พรรคพลังประชารัฐ 16.98% ระบุว่าเป็น พรรคประชาธิปัตย์ 15.63% ระบุว่าเป็น พรรคอนาคตใหม่ 5.32% ระบุว่าเป็น พรรคเสรีรวมไทย 2.14% ระบุว่าเป็น พรรคชาติไทยพัฒนา 1.83% ระบุว่าเป็น พรรคไทยรักษาชาติ 1.67% ระบุว่าเป็น พรรครวมพลังประชาชาติไทย 1.35% ระบุว่าเป็น พรรคภูมิใจไทย และ 0.79% ระบุว่าเป็น พรรคพลังชาติไทย
สำหรับปัญหาที่อยากให้นายกคนต่อไปเข้ามาแก้ไขมากที่สุด พบว่า 44.13% ระบุว่า ปัญหาปากท้องและหนี้สินของประชาชน 28.81% ระบุว่า ปัญหาราคาพืชผลตกต่ำ 9.21% ระบุว่า ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน การใช้อำนาจโดยมิชอบ ผู้มีอิทธิพล 5.08% ระบุว่า ปัญหายาเสพติด อาชญากรรม มิจฉาชีพ และ 5.00% ระบุว่า ปัญหาการควบคุมราคาสินค้า
ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงความเชื่อมั่นว่าจะมีการเลือกตั้ง ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 โดยไม่มีการเลื่อนออกไปอีก พบว่า 50.71% ระบุว่า ไม่เชื่อมั่น เพราะ หลายพรรคการเมืองยังไม่พร้อม ไม่ชัดเจนในหลาย ๆ เรื่อง มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ขณะที่บางส่วนระบุว่า เลื่อนการเลือกตั้งมาแล้วหลายครั้งเลยทำให้ขาดความเชื่อมั่น 48.81% ระบุว่า เชื่อมั่น เพราะ สถานการณ์ทางการเมืองเริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ เป็นไปตามโรดแมปที่รัฐบาลวางไว้ มีการประกาศให้ทราบโดยทั่วกันแล้วถึงกำหนดการเลือกตั้ง และเชื่อมั่นในความสามารถและความพร้อมของรัฐบาล และ 0.48% ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ
