Politics

‘หมอธีระ’ ย้ำสถานการณ์ระบาดในไทยรุนแรง ไม่ปลอดภัยอย่างยิ่ง!

“หมอธีระ” เผยยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกล่าสุดอยู่ที่ 132,989,830 คน เสียชีวิตรวม 2,884,827 คน ชี้สถานการณ์ทั่วโลกระบาดซ้ำกันรุนแรงมาก ย้ำในไทยยังรุนแรง ไม่ปลอดภัยอย่างยิ่ง

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat รายงาน ยอดผู้ติดเชื้อวันนี้ โดยระบุว่า สถานการณ์ทั่วโลก 7 เมษายน 2564… วันนี้จะทะลุ 133 ล้าน บราซิลมีรายงานตายเพิ่มกว่าสี่พันคน อินเดียติดวันเดียวเกินแสนคน เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 623,358 คน รวมแล้วตอนนี้ 132,989,830 คน ตายเพิ่มอีก 12,681 คน ยอดตายรวม 2,884,827 คน

  • อเมริกา เมื่อวานติดเชิ้อเพิ่ม 60,451 คน รวม 31,558,576 คน ตายเพิ่ม 877 คน ยอดเสียชีวิตรวม 570,231 คน อัตราตาย 1.8%
  • บราซิล ติดเพิ่ม 82,869 คน รวม 13,106,058 คน ตายเพิ่มถึง 4,211 คน จำนวนเสียชีวิตต่อวันมากที่สุดในโลก ยอดเสียชีวิตรวม 337,364 คน อัตราตาย 2.6%
  • อินเดีย ติดเพิ่ม 115,269 คน รวม 12,799,746 คน ตายเพิ่ม 631 คน ยอดเสียชีวิตรวม 166,208 คน อัตราตาย 1.3%

หมอธีระ

  • ฝรั่งเศส ติดเพิ่ม 8,045 คน ยอดรวม 4,841,308 คน ตายเพิ่ม 398 คน ยอดเสียชีวิตรวม 97,273 คน อัตราตาย 2%
  • รัสเซีย ติดเพิ่ม 8,328 คน รวม 4,597,868 คน ตายเพิ่ม 389 คน ยอดเสียชีวิตรวม 101,106 คน อัตราตาย 2.2%
  • อันดับ 6-10 เป็น สหราชอาณาจักร อิตาลี ตุรกี สเปน และเยอรมัน ส่วนใหญ่ติดกันหลักพันถึงหลายหมื่นต่อวัน
  • ตุรกีติดเชื้อเกือบห้าหมื่นต่อวัน ระลอกสามของเค้ามีจำนวนการติดเชื้อต่อวันสูงกว่าระลอกแรกเกือบ 5 เท่า และสูงกว่าระลอกสอง 1.6 เท่า อัตราเร็วในการเพิ่มสูงกว่าระลอกแรก แต่พอๆ กับระลอกสอง
  • แถบอเมริกาใต้ ยุโรป เอเชีย อย่างโคลอมเบีย เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ ยูเครน แคนาดา รวมถึงบังคลาเทศ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น และมาเลเซีย ยังติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่น
  • แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย ก็มีการติดเชื้อเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่หลักร้อยถึงพันกว่า
  • แถบตะวันออกกลาง ประเทศส่วนใหญ่ยังติดเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่นอย่างต่อเนื่อง
  • เกาหลีใต้ และไทย ติดเพิ่มหลักร้อย ส่วนจีน เมียนมาร์ สิงคโปร์ นิวซีแลนด์ เวียดนาม และกัมพูชา ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่ฮ่องกง และออสเตรเลีย ติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ

…สถานการณ์ทั่วโลกเห็นได้ชัดว่าระบาดซ้ำกันรุนแรงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งอินเดียที่มีจำนวนการติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างเร็วมาก และติดเชื้อรายวันมากกว่าระลอกแรก

ของไทยเรานั้น… ต้องทำความเข้าใจธรรมชาติของการระบาด จะได้ไม่เข้าใจกันผิด

โรคระบาดนั้นเราสังเกตและแบ่งได้เป็น 4 ระยะหลัก ๆ ได้แก่

ระยะ 1 : เดิมพื้นที่ไม่มีโรค แต่มีคนติดเชื้อจากนอกพื้นที่เข้ามา
ระยะ 2 : คนที่ติดเชื้อจากนอกพื้นที่นั้นนำมาแพร่ให้แก่คนในพื้นที่
ระยะ 3 : คนในพื้นที่นั้นมีการติดเชื้อแพร่เชื้อให้แก่กันไปเรื่อย ๆ
ระยะ 4 : การระบาดค่อย ๆ ลดลง จะจากมาตรการที่ดำเนินการควบคุมป้องกัน หรือติดกันหนักจนไม่มีให้ติดแล้วก็ตาม

พอเราเข้าใจกันตามนี้ จะเห็นได้ว่าสิ่งที่เราเจอกันมาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมานั้น มันคือ “การระบาดระยะ 3”

ส่วนการจะบอกว่าตอนนี้ระบาดกันระลอกไหน หนึ่ง สอง สาม สี่ ใหม่ ใหม่กว่า ใหม่ที่สุด หรือระลอกสองของระลอกใหม่ ที่ปั่นกันมาตลอดแบบไร้สาระนั้น มักเป็นผลมาจากการระบาดระยะ 3 ที่มีการแพร่เชื้อติดเชื้อกันมากและต่อเนื่องจนติดกันงอมแงม

ดังนั้น ข่าวในโซเชียลประเภทที่กระพือว่า คนติดเชื้อกันในตอนนี้เข้าเกณฑ์ของระลอกสามนั้น ขอให้แยกแยะให้ดี เพราะอาจสับสนเรื่อง “ระยะ 3” มาปนกับ “ระลอก” ได้

สำหรับสถานการณ์ในเมืองไทย การระบาดรุนแรง ไม่ปลอดภัยอย่างยิ่ง เพราะติดเชื้อกระจายไปทั่ว ไม่ได้จำเพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง สถานที่ใดสถานที่หนึ่ง หรือจังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง ดังจะเห็นได้จากการพบความเสี่ยงทั้งในตลาด โรงเรียน มหาลัย เรือนจำ สถานที่ประชุม สถานที่จัดกิจกรรมและการแสดง ร้านอาหาร ร้านบุฟเฟต์ งานศพ ฯลฯ

ยืนยันว่า นี่ไม่ใช่เวลาตะลอนท่องเที่ยวสังสรรค์พบปะกัน เลื่อนได้ควรเลื่อน งดได้ควรงด

กิจการค้าขายสินค้า บริการ อาหารและเครื่องดื่ม ควรปรับรูปแบบบริการ ลดคน ลดเวลาสัมผัส และเน้นการขายให้นำกลับ หรือบริการถึงบ้าน

ถัดจากนี้ไป จะมีโอกาสกระจายไปมากขึ้น ทั้งงานแต่งงาน งานวัด งานบวช โรงแรมที่พัก สถานที่ท่องเที่ยว ขนส่งสาธารณะ และสถานพยาบาล ดังนั้นจึงขอให้เราช่วยกันป้องกันอย่างเคร่งครัด

สัจธรรมที่ประชาชนทั่วโลกได้เรียนรู้คือ ไม่ควรเชื่อลมปากที่โฆษณาสร้างภาพลวงให้ใช้ชีวิตตามปกติ เอาอยู่ คุมได้…เพราะสุดท้ายเวลาเกิดปัญหา ก็บีบน้ำตาเปิดตูดหนีหายด้วยความขลาดเขลาเสมอมา

ประเทศใดได้ “คนดีและเก่ง” มาดูแลสวัสดิภาพและความปลอดภัยในชีวิตของประชาชน ประเทศนั้น ๆ ย่อมปลอดภัย และเห็นผลลัพธ์ที่ดี

ด้วยรักและปรารถนาดีเสมอ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK