กกต.ประกาศระเบียบแบ่งเขตเลือกตั้งส.ส.แล้ว คาดเสร็จภายใน 60 วัน ให้พรรคการเมืองคัดเลือกผู้สมัคร เชื่อจัดเลือกตั้งทัน 24 กุมภาพันธ์ปีหน้า แต่ต้องรอความชัดเจนวันถกคสช.-พรรคการเมืองรอบสอง
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงวันนี้ (18 ก.ย.)ว่า กกต.ได้เห็นชอบระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการแบ่งเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว โดยจะมีการประชุมกกต. เพื่อทำการแบ่งเขตเลือกตั้งในวันนี้
ตามระเบียบกำหนดให้ภายใน 3 วัน กกต.ต้องประกาศจำนวนส.ส.ที่แต่ละจังหวัดพึงมี จากนั้น ผอ.กกต.ประจำจังหวัดจะนำจำนวน ส.ส.แต่ละจังหวัดไปทำการแบ่งเขตเลือกตั้งในจังหวัดนั้นๆ ซึ่งจะใช้เวลา 14 วัน โดยมีตัวเลือกทั้งหมด 3 รูปแบบต่อเขต ก่อนที่จะปิดประกาศที่หน้าสำนักงานกกต.จังหวัดหรือศาลากลาง เป็นเวลา10 วัน ให้พรรคการเมืองและประชาชนแสดงความคิดเห็น
ภายใน 3 วัน หลังสิ้นสุดการรับฟังความเห็นผอ.กกต.ประจำจังหวัดประมวลความเห็นแล้วไปพิจารณาปรับปรุงรูปแบบการแบ่งเขต และรายงานกกต. ซึ่งกกต.มีเวลาพิจารณาชี้ขาดภายใน 20 วัน รวมไม่เกิน 45-50 วัน จะได้เขตเลือกตั้งในแต่ละจังหวัด โดยคาดการณ์ไว้ว่าใช้เวลาประมาณ 60 วัน แต่ละพรรคจะได้คัดเลือกผู้สมัครโดยกรรมการสรรหาผู้สมัครของแต่ละพรรคการเมือง
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวอีกว่า สำหรับจำนวนราษฎรที่จะใช้ในการแบ่งเขตเลือกตั้งนั้น ตามระเบียบนี้ให้ใช้จำนวนราษฎรทั้งประเทศที่สำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครองกระทรวงมหาดไทย ประกาศเรื่องจำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร ณ.วันที่ 31 ธันวาคม 2560 ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2561 โดยถือได้ว่าเป็นประกาศในปีสุดท้ายก่อนปีที่มีการเลือกตั้งตามที่ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.กำหนดไว้ ซึ่งจำนวนประชากรต่อ ส.ส. 1 คนจะใช้ประชากร 189,110 คน
แม้ว่าในอนาคตการเลือกตั้งจะไม่ใช่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ปีหน้า และมีการประกาศจำนวนราษฎรใหม่ก็ไม่กระทบกับการแบ่งเขตเลือกตั้งที่ดำเนินการไป เพราะกฎหมายยึดประกาศในปีสุดท้ายก่อนปีที่มีการเลือกตั้ง
สำหรับการกำหนดวันเลือกตั้ง เป็นอำนาจของกกต.โดยหลังมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งแล้ว กกต.จะประกาศกำหนดวันเลือกตั้งซึ่งต้องดูความพร้อมของสำนักงานและพรรคการเมือง ซึ่งจะต้องมีสาขาและตัวแทนพรรคการเมืองตามที่กฎหมายกำหนด เพราะมาตรา 145 ยังไม่ได้ถูกยกเลิก
ส่วนระเบียบกกต.ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว.ขณะนี้ผ่านความเห็นชอบของกกต.แล้ว อยู่ระหว่างการตรวจทานคำถูกผิด จากนั้นจะเสนอให้ประธานกกต.ลงนามคาดว่าจะประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ไม่เกินสัปดาห์หน้า
