Politics

‘เอ๋’ ลั่นสู้คดีรุกป่า บอกมีปัญหาเพราะชื่อ ‘ปารีณา’

วันนี้ (13 ก.พ.) น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยนายทศพล เพ็งส้ม ทนายความ แถลงข่าวร่วมกัน กรณีสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความว่า เขาสนฟาร์ม หรือฟาร์มไก่ของ น.ส.ปารีณา ในพื้นที่ อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี มีสถานะเป็นป่า

paa 1

น.ส.ปารีณา ระบุว่า ตามที่คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความออกมานั้น ถือว่าตัวเองยังไม่ถูกตัดสิน และจะขอสู้คดีถึงที่สุด ยืนยันไม่ได้บุกรุกป่า ตอนนี้ยังไม่ได้หาช่องทางการต่อสู้คดี เพราะยังไม่มีความชัดเจนว่า ส.ป.ก.และ กรมป่าไม้ จะดำเนินคดีกับตนเองในประเด็นใดบ้าง

ส่วนเรื่องที่ว่า จะมีการสละเอกสิทธิ์คุ้มครอง ส.ส. ช่วงสมัยประชุม และเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายหรือไม่ น.ส.ปารีณา กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับสภา แล้วแต่ประธานจะว่าอย่างไร แต่ตัวของตนเองไม่มีปัญหาอะไร  พร้อมยืนยัน จะไม่มีการใช้เส้นสายของรัฐมนตรีในพรรคพลังประชารัฐ เพื่อช่วยให้หน่วยงานรัฐไม่ดำเนินคดีกับตนเองอย่างแน่นอน

น.ส.ปารีณา กล่าวว่า ที่ผ่านมา ทุกคนก็เห็นอยู่แล้วว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นคำกล่าวหาจากสังคม และสื่อมวลชนบางฝ่าย ซึ่งไม่ใช่ข้อเท็จจริง ทุกคนก็เห็นว่า ตนถูกปฏิบัติเกินกว่าคนอื่นด้วยซ้ำ ชาวบ้านประกาศให้ออกจากพื้นที่ภายใน 30 วัน แต่ของตนถูกประกาศให้ออกจากพื้นที่ภายใน 7 วัน ตนถูกกระทำเยอะมาก หรือเพราะว่าตนชื่อปารีณาหรือไม่ ทุกคนจึงมาทำแบบนี้

ส่วนที่จะมีการดำเนินคดีเพิ่มเติมกับตน ตนยังไม่เห็นข้อกล่าวหาที่ชัดเจน ให้แจ้งข้อกล่าวหามาก่อน อย่างไรก็ตาม จากนี้ตนจะปกป้องตัวเอง ก่อนหน้านี้มีฝ่ายตรงข้าม ออกมาโจมตี นำคดีมาเทียบเคียง ถ้าใครพูดอะไรก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองพูด จะไม่ปล่อยให้มีการกระทำเหมือนที่ผ่านมา

ทางด้าน นายทศพล เพ็งส้ม ทีมกฎหมายพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า พยายามตรวจสอบทุกพื้นที่ที่มีการออก พ.ร.ก.ปฏิรูปที่ดินว่ามีการดำเนินการของ ส.ป.ก.อย่างไร ซึ่งตั้งข้อสังเกตว่า ใครจะเป็นคนแจ้งก่อน เพราะกฎหมายของกรมป่าไม้กับ ส.ป.ก.เวลาสู้คดีใช้คนละฉบับ และความเป็นจริงเรื่องไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น แต่เกิดขึ้นมานานแล้ว จึงต้องไปสอบผู้ใหญ่บ้าน  และเท่าที่สอบถาม น.ส.ปารีณา ทราบว่า ส.ป.ก.ยังไม่ได้ไปดำเนินการสอบข้อเท็จจริงแต่อย่างใด

นายทศพล ปฏิเสธด้วยว่า ไม่ได้แถลงข่าวเพื่อตอบโต้สังคม แต่เป็นเพียงการโต้ทางคดี ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว ที่ดินบางแปลงมีทั้งออกโฉนด และไม่ออกโฉนด รวมทั้งมีเอกสารบางฉบับที่หายไป และการลงสำรวจครั้งที่ผ่านมายังไม่ปรากฏเอกสาร จนถึงขณะนี้ความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกายังไม่มีความชัดเจนเลย จึงไม่สามารถตอบได้ว่าจะใช้ช่องทางใดในการต่อสู้ทางคดี แต่ส่วนตัวมั่นใจว่า น.ส.ปารีณาไม่มีความผิด ตั้งแต่เข้ามาทำคดีนี้

Avatar photo