พล.ร.อ.ปวิตร รุจิเทศ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. เดินทางมาให้กำลังใจ คณะนิสิตจากจุฬาฯ จิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. และประชาชนจิตอาสาที่ได้ร่วมกิจกรรมช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในระยะฟื้นฟู พื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ในวันที่ 12-13 ตุลาคม 2562 ณ เทศบาลวารินชำราบ และโรงเรียนบ้านคูสว่าง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ทั้งนี้เพื่ออุทิศถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
กิจกรรมช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในระยะฟื้นฟู พื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี “จุฬาฯสามัคคี” ตามโครงการจิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. ปลูกต้นกล้าแห่งความดี “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” มีผู้เข้าร่วมประกอบด้วย ประชาชนจิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. พร้อมกับคณาจารย์และนิสิตจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
นำโดย รองอธิการบดีด้านยุทธศาสตร์และการขับเคลื่อน ศ.นพ.ดร.นรินทร์ หิรัญสุทธิกุล และ 2 ผู้ช่วยอธิการบดีด้านพัฒนานิสิตและนิสิตเก่าสัมพันธ์ ผศ.ดร.ชัยพัฒน์ หล่อศิริรัตน์ และ ผศ.สรายุทธ ทรัพย์สุข พร้อมด้วยนิสิตจุฬาฯ จากคณะครุศาสตร์ จิตวิทยา นิติศาสตร์ นิเทศศาสตร์ พาณิชยศาสตร์และการบัญชี เภสัชศาสตร์ รัฐศาสตร์ วิทยาศาสตร์การกีฬา วิศวกรรมศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สหเวชศาสตร์ สัตวแพทยศาสตร์ สำนักวิชาทรัพยากรการเกษตร และนิสิตเก่า รวมทั้งสิ้นกว่า 100 คน
วันที่ 12 ตุลาคม คณะนิสิตจุฬาฯ เดินทางไปยังวัดเสนาวงศ์ ชุมชนท่าบ้งมั่ง เทศบาลวารินชำราบ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ร่วมทำความสะอาดลานวัด ทำความสะอาดผนังที่สกปรกเลอะเทอะเป็นคราบ เช็ดล้างสิ่งของจำเป็นภายในวัด เช่น โต๊ะ เก้าอี้ บาตรพระ พระพุทธรูป ฯลฯ และช่วยกันขนของลำเลียงเครื่องอุปโภค บริโภค ของใช้ที่จำเป็น เพื่อนำส่งให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน จากนั้นร่วมแจกจ่ายอาหารโรงครัวพระราชทาน และในช่วงบ่าย ร่วมกันทำความสะอาดต่อ
วันที่ 13 ตุลาคม คณะนิสิตจุฬาฯ ออกเดินทางไปโรงเรียนบ้านคูสว่าง ตำบลหนองกินเพล อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกิจกรรมสันทนาการตรวจสุขภาพ โดยมีหน่วยแพทย์เคลื่อนที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และหน่วยปฐมพยาบาลจากศูนย์บริการสุขภาพแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คอยให้บริการรักษาแก่คนในพื้นที่ จากนั้นมีการสรุปงาน ผู้แทนคณะฯ กล่าวความรู้สึกและประสบการณ์ที่ได้รับ และผู้แทนชุมชนกล่าวขอบคุณ ช่วงเที่ยง คณะนิสิตจุฬาฯ ร่วมแจกจ่ายอาหารโรงครัวพระราชทาน และรับประทานอาหารกลางวัน ก่อนที่จะเดินทางกลับในช่วงบ่าย
ทั้งนี้เหตุการณ์น้ำท่วมใน จังหวัดอุบลราชธานี ได้สร้างความเสียหายในบริเวณกว้าง มีประชาชนกว่า 21,691 คน ต้องอพยพ บ้านเรือนเสียหาย 18,790 หลัง มีโรงเรียน โรงพยาบาล และสถานที่ราชการ ได้รับความเสียหายกว่า 156 แห่ง
