นายวรศิษฎ์ เลียงประสิทธิ์ ส.ส.สตูล พรรคภูมิใจไทย ได้กล่าวในการอภิปรายนโยบายรัฐบาลว่า ขอบคุณทุกฝ่ายที่ได้ให้ความสำคัญนโยบายของพรรคภูมิใจไทยทั้ง 12 ข้อ ที่ได้บรรจุไปในนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องชาวประมง
ในส่วนของปัญหาของชาวประมงนั้น แม้ว่า ในปี 2562 สหภาพยุโรป (อียู) จะประกาศปลดใบเหลืองให้กับประเทศไทย ซึ่งถือเป็นความสำเร็จในการแก้ปัญหาเรื่องประมงของคนไทย แต่การแก้ปัญหาครั้งนี้ ชาวประมงต้องเจอกับความเจ็บปวด และเกิดปัญหาอีกหลายอย่างตามมา
ทุกวันนี้ชาวประมงที่ยังเหลืออยู่ พยายามทุกวิถีทางที่จะทำประมงแบบถูกกฎหมาย ไม่มีใครที่อยากทำประมงแบบผิดกฎหมายเพราะมีโทษหนักมาก ค่าปรับถึงหลักแสน หลักล้าน หรืออาจจะมีโทษจำคุกด้วย แต่ขณะเดียวกัน ชาวประมงเหล่านี้ก็ประสบปัญหาหนักมาก ไม่ว่าจะเป็นการแบกรับต้นทุนไม่ไหว ปัญหากฎหมายต่างๆ ที่ออกมาเกินความจำเป็น
สถานการณ์เหล่านี้ทำให้เกิดชาวประมงประสบปัญหาในการดำรงชีวิต รวมไปถึงปัญหาของสหภาพแรงงาน ปัญหาการจดทะเบียนเรือ ปัญหาพื้นที่ทำกินของชาวประมงชายฝั่ง และชาวประมงพื้นบ้าน
นายวรศิษฎ์กล่าวว่า ตน และเพื่อนสมาชิกพรรคภูมิใจไทยในภาคใต้ เสนอให้มีการแบ่งการแก้ปัญหาเป็น 2 ระยะด้วยกัน คือ ระยะเร่งด่วน และระยะยาว
ในระยะเร่งด่วนนั้น ควรที่จะแก้ปัญหาในเรื่องของภาคแรงงาน ซึ่งปัจจุบันมีการขาดแรงงานการทำประมงเป็นอย่างมาก รวมไปถึงการแก้ไขกฎหมายในบางข้อ ตนอยากฝากผู้ที่เกี่ยวข้องกับชาวประมงเข้ามามีส่วนร่วมในการออกกฎหมายฉบับนี้ด้วยและมั่นใจว่าจะได้กฎหมายที่มีคุณภาพ
สำหรับระยะยาว เห็นควรที่จะให้มีการตั้งสภาชาวประมงแห่งชาติ เพื่อให้เกิดการหารือ กำหนดแนวทาง รวมไปถึงการเชื่อมต่อกับรัฐบาล ซึ่งประกอบไปด้วยบุคลากรในภาคต่างๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับพี่น้องชาวประมง
นอกจากนั้น ยังเห็นควรให้ตั้งกองทุนอนุรักษ์ทะเลและพัฒนาประมงไทย ซึ่งกองทุนนี้ต้องช่วยเหลือและดูแลพี่น้องชาวประมงที่เกิดความเดือดร้อน ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการทำประมงอย่างยั่งยืน
นายวรศิษฎ์ แสดงความมั่นใจด้วยว่า ถ้ารัฐบาลให้ความสนใจ ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้กับชาวประมง ทั้งยังวจะทำให้เกิดการทำประมงแบบถูกต้องตามกฎหมาย และยั่งยืน