Politics

‘เรืองไกร’ ชู 7 ข้อ จี้ ป.ป.ช. รีบส่งศาลฎีกา ’44 ส.ส.ก้าวไกล’ ผิดจริยธรรมหรือไม่

“เรืองไกร” อธิบายยาว 7 เหตุผล จี้ “ป.ป.ช.” เร่งทำเรื่องส่งศาลฎีกา พิจารณา 44 ส.ส.ก้าวไกล กระทำความผิด ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า วันนี้ (4 ก.พ.) ได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS เพื่อขอให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รีบนำคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ณ วันที่ 31 มกราคม 2567 มาตรวจสอบเพิ่มเติมว่า ส.ส.พรรคก้าวไกล จำนวน 44 คน มีพฤติการณ์จงใจปฏิบัติหน้าที่ หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 234 (1) หรือไม่

44 ส.ส.ก้าวไกล

และจะต้องเสนอเรื่องต่อศาลฎีกาตามความในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 87 หรือไม่ โดยมีเนื้อหาในหนังสือสรุปดังนี้

1. เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2564 เคยร้องขอให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ ส.ส.พรรคก้าวไกล จำนวน 44 คน ว่ามีพฤติการณ์จงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 234 (1) หรือไม่

2.เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2565 สำนักงาน ป.ป.ช.ได้มีหนังสือที่ ปช 0019/0142 เรื่อง ชี้แจงผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่ระบุไว้บางส่วน ดังนี้

…กรณีดังกล่าวมีข้อเท็จจริงว่าเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564 ผู้ถูกร้องกับคณะ ได้เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่…) พ.ศ. … (แก้ไขเกี่ยวกับความผิดฐานหมิ่นประมาท) ซึ่งสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้ตรวจสอบพบข้อบกพร่อง และได้แจ้งให้ผู้ถูกร้องทราบ

ผู้ถูกร้องได้มีหนังสือแจ้งขอถอนการเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่…) พ.ศ. … (แก้ไขเกี่ยวกับความผิดฐานหมิ่นประมาท) ดังกล่าว ต่อมาเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2564 ผู้ถูกร้องกับคณะ ได้เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่…) พ.ศ. …. (แก้ไขเกี่ยวกับความผิดฐานหมิ่นประมาท) เป็นครั้งที่สอง ซึ่งสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้เสนอความเห็นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 2 ครั้ง

ปัจจุบันร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ อยู่ระหว่างการดำเนินการตามดำริของ นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรแจ้งผู้เสนอ (ผู้ถูกร้อง) ให้แก้ไขข้อบกพร่องตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2562 ข้อ 111

ที่กำหนดว่า ร่างพระราชบัญญัติที่มีผู้เสนอตามมาตรา 133 ของรัฐธรรมนูญให้ประธานสภาทำการตรวจสอบ และหากมีข้อบกพร่อง ให้ประธานสภาแจ้งผู้เสนอทราบภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ได้รับ ซึ่งสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้แจ้งให้ผู้ถูกร้องทราบแล้ว เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2564 ดังนั้น ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่…) พ.ศ. …. (แก้ไขเกี่ยวกับความผิดฐานหมิ่นประมาท) จึงยังไม่ได้รับการอนุญาตให้บรรจุระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร และยังไม่ได้จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็น และวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ ตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2562 ข้อ 110 วรรคสี่ ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้จึงยังไม่มีผลบังคับใช้เป็นกฎหมาย

กรณีการร่างรัฐธรรมนูญที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย นั้น ไม่พบว่ารัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 และข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2562 มีการกำหนดบทลงโทษผู้เสนอร่างกฎหมายในเรื่องนี้ไว้เป็นการเฉพาะแต่อย่างใด

44 ส.ส.ก้าวไกล

3. ต่อมาวันที่ 31 มกราคม 2567 ตามข่าวสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ที่ 5/1567 ได้เผยแพร่ผลคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญว่า ศาลรัฐธรรมนูญโดยมติเอกฉันท์ วินิจฉัยว่า การกระทำของผู้ถูกร้องทั้งสอง เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง และสั่งการให้ผู้ถูกร้องทั้งสองเลิกการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา และการสื่อความหมายโดยวิธีอื่น เพื่อให้มีการยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112

อีกทั้งไม่ให้มีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ด้วยวิธีการซึ่งไม่ใช่กระบวนการทางนิติบัญญัติโดยชอบ ที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตด้วย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคสอง และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 74

4. คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2567 เป็นกรณีที่มีกล่าวหาเกี่ยวกับการที่ผู้ถูกร้องทั้งสองเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่…) พ.ศ. ….ด้วย ซึ่งน่าจะเป็นมูลกรณีในทำนองเดียวกันกับคำร้องของข้าฯ ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ช.ระบุไว้ท้ายหนังสือดังกล่าวส่วนหนึ่งว่า หากข้าฯยังมีข้อมูลหรือข้อเท็จจริงที่จะสนับสนุนว่าข้อกล่าวหามีรายละเอียดเพิ่มเติมเพียงพอที่จะดำเนินการต่อไป โปรดแจ้งข้อเท็จจริงพร้อมเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องไปยังสำนักงาน ป.ป.ช.

5. เนื่องจากมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญ และองค์กรอิสระ พ.ศ.2561 ข้อ 3 วรรคสอง ระบุว่า มาตรฐานทางจริยธรรมนี้ให้ใช้บังคับแก่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา และ คณะรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 219 วรรคสอง ด้วย

หมวด 1 มาตรฐานทางจริยธรรมอันเป็นอุดมการณ์ ข้อ 5 ระบุว่า ต้องยึดมั่นและธํารงไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ข้อ 6 ระบุว่า ต้องพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ เอกราช อธิปไตย บูรณภาพ แห่งอาณาเขตและเขตที่ประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตย เกียรติภูมิและผลประโยชน์ของชาติ ความมั่นคงของรัฐ และความสงบเรียบร้อยของประชาชน ข้อ 27 วรรคหนึ่ง ระบุว่า การฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมในหมวด 1 ให้ถือว่ามีลักษณะร้ายแรง

44 ส.ส.ก้าวไกล

6. ประกอบกับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 87 บัญญัติว่า มาตรา 87 เมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวนและมีความเห็นว่า ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หรือผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง

ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.เสนอเรื่องต่อศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัย การเสนอเรื่องต่อศาลฎีกาตามวรรคหนึ่ง และการพิจารณาพิพากษาของศาลฎีกาให้เป็นไปตามระเบียบของที่ประชุมใหญ่ของศาลฎีกาซึ่งต้องกําหนดให้ใช้ระบบไต่สวนและให้ดำเนินการโดยรวดเร็ว ให้นําความในมาตรา 81 และมาตรา 86 มาใช้บังคับด้วยโดยอนุโลม การเสนอเรื่องต่อศาลฎีกาตามวรรคหนึ่ง คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีอำนาจมอบหมายให้พนักงาน เจ้าหน้าที่ดำเนินการในศาลแทนได้

7. ดังนั้น โดยผลของคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2567 จึงควรถือเป็นรายละเอียดเพิ่มเติมเพียงพอที่จะขอให้ ป.ป.ช.ดำเนินการต่อไปได้

กรณีจึงมีเหตุอันควรขอให้ ป.ป.ช.นำคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ณ วันที่ 31 มกราคม 2567 มาเป็นรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อนำไปประกอบการตรวจสอบว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล จำนวน 44 คน มีพฤติการณ์จงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 234 (1) หรือไม่

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X (Twitter): https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg

Avatar photo