“ชัยธวัช” ยกเหตุการณ์ “พรรคก้าวไกล” ชนะเลือกตั้ง ท้าทายที่สุดในปี 2566 พร้อมคืนตำแหน่งหัวหน้าพรรคหาก “พิธา” รอดปมหุ้น!
นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคก้าวไกล และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ความท้าทายที่สำคัญที่สุดของพรรคก้าวไกล ภายในพรรคมีการพูดคุยกันหลายครั้ง โดยสรุปพวกเราเห็นว่าในอนาคตข้างหน้า คู่แข่งหรือความท้าทายที่สำคัญสำหรับพรรคก้าวไกล ไม่ใช่พรรคการเมืองคู่แข่ง แต่เป็นตัวเราเอง หมายความว่า อนาคตความสำเร็จในทางการเมืองของพรรคก้าวไกล ขึ้นอยู่กับเราจะชนะตัวเองได้หรือไม่
“เราจะทำงานให้เป็นพรรคการเมืองในแบบที่เราพูดได้หรือไม่ เราสามารถทำงานให้เป็นอย่างที่ประชาชนคาดหวังได้หรือไม่ เป็นคู่แข่งที่สำคัญที่สุด คือแข่งกับตัวเอง หากสามารถบรรลุได้ เชื่อว่าความสำเร็จทางการเมือง และการยอมรับจากประชาชนจะมีมากขึ้น ผมบอกลูกพรรคว่าอย่าเสียเวลาไปทะเลาะกับพรรคการเมืองคู่แข่ง ให้ทำงานให้หนัก แล้วสร้างผลงานตัวเอง พิสูจน์ตัวเองว่า พรรคก้าวไกล สส.ของพรรคก้าวไกล ทีมงานของพรรคก้าวไกล มีความพร้อม มีความเหมาะสมบริหารประเทศจริง ๆ นี่เป็นเป้าหมาย” นายชัยธวัช กล่าว
เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่หากเกิดแผ่นดินไหวทางการเมือง จะเกิดการดึงตัว สส. ที่ส่วนมากเป็นหน้าใหม่ ย้ายไปซบพรรคอื่น นายชัยธวัช ยืนยันว่าไม่กังวล สำหรับงูเห่าได้พิสูจน์ไปแล้วว่างูเห่าทุกตัวจากพรรคก้าวไกล สอบตกหมด แต่สิ่งที่ให้ความสำคัญสำหรับ สส. ใหม่และ สส. สมัยที่สองคือการพัฒนาศักยภาพตัวเองให้มากกว่านี้ เพื่อให้พร้อมกับการทำงาน เพราะต้องยอมรับว่าในช่วงสามเดือนที่ผ่านมาเป็นช่วงตั้งไข่ของหลายคน หลายคนอาจเพิ่งเรียนรู้ว่าการทำงาน สส. เขตที่ดีควรเป็นอย่างไร ได้เจอโจทย์ของจริงการทำงานในกลไกต่าง ๆ ของสภาเป็นอย่างไร การทำงานในกรรมาธิการอย่างมีประสิทธิภาพให้บรรลุเป้าหมาย ซึ่งในช่วงที่ผ่านมายังอยู่ในช่วงตั้งไข่ของ สส. ใหม่หลายคน แต่สำหรับ ปีหน้าคงหมดเวลาฮันนีมูนแล้ว ไม่ใช่เฉพาะฝ่ายรัฐบาล แต่ฝ่ายค้านก็หมดเวลาฮันนีมูนแล้วเหมือนกัน เพราะฉะนั้น ทุกคนต้องพิสูจน์ผลงาน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในวันที่ 24 มกราคม 2567 ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยกรณีคุณสมบัติ สส.ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แล้วหากนายพิธา สามารถกลับมาทำหน้าที่ได้ต่อจะวางบทบาทไว้ตรงไหน นายชัยธวัช กล่าวว่า แน่นอนตามที่ผมได้เคยแถลงครั้งประชุมสมัยวิสามัญ พรรคก้าวไกล ที่มีการเปลี่ยนคณะกรรมการบริหารพรรคและหัวหน้าพรรค ผมได้แถลงอย่างชัดเจนแล้วว่าเป็นการปรับคณะกรรมการบริหารพรรคชั่วคราวเท่านั้น เพื่อรอการประชุมใหญ่สามัญของพรรคจริง ๆ ในเดือนเมษายน 2567 ดังนั้นหากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้กลับมาทำหน้าที่ สส.อีกครั้ง ผมเชื่อว่าสมาชิกพรรคจะสนับสนุนให้นายพิธา มาเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่อีกครั้ง
เมื่อถามว่ามีความสุขดีหรือไม่ที่ต้องมาเป็นหัวหน้าพรรคเฉพาะกิจแทนนายพิธา นายชัยธวัช กล่าวว่า ผมมีความสุขกับการทำงานทุกวัน ทุกบทบาท เพราะสิ่งที่อยากเห็นสำหรับประเทศนี้ยังไปไม่ถึง ผมยังมีความหวัง ยังมีความฝัน มีเป้าหมายที่อยากจะทำ และคิดว่าสังคมแบบที่เราอยากเห็นไม่ได้ใช้เวลาเพียงช่วงข้ามคืน แต่ต้องสะสมการเปลี่ยนแปลงทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ แต่การผลักดันด้วยการทำงานของเรา เชื่อว่าจะเร่งการเปลี่ยนแปลงได้
ทั้งนี้ บทบาทของพรรคอนาคตใหม่มาถึงพรรคก้าวไกล คือเป็นตัวเร่งในการเปลี่ยนแปลง เช่น การที่สภาฯรับหลักการ พรบ.สมรสเท่าเทียม เรามีความภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งในการทำงานผลักดันทางความคิดแก่คนในสังคมมาไม่ต่ำกว่า 4 ปี จนกระทั่งทุกภาคส่วน หลายพรรคการเมือง พร้อมสนับสนุนสิ่งนี้ ซึ่งหากนึกภาพการเมืองในสภาก่อนมีพรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล คงนึกไม่ถึงว่าเราจะมีการพิจารณาเรื่องแบบนี้ในรัฐสภาไทย วันนี้ถือเป็นความสำเร็จของสังคมไทยร่วมกัน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ชัยธวัช’ มั่นใจคดีแก้ม.112 ไม่ถึงขั้นยุบพรรคก้าวไกล คาดศาลนัดชี้ชะตาปีหน้า
- ‘ชัยธวัช’ ใช้ตำแหน่ง ส.ส. พร้อมหลักทรัพย์ ยื่นประกันตัว ‘ไอซ์ รัชนก’
- ราบรื่นดี! ‘ชัยธวัช’ คุย ‘กปปส.-เสื้อแดง’ หาเสียงหนุน ‘พ.ร.บ.นิรโทษกรรม’