Politics

‘พล.อ.อนุพงษ์’ อำลาเก้าอี้ ‘มท.1’ เล็งไปพักผ่อนที่ญี่ปุ่น ลั่นขอฝากประเทศชาติไว้ด้วย

“พล.อ.อนุพงษ์” อำลาเก้าอี้ “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย” จากนี้ขอไปพักผ่อน เล็งไปเที่ยวญี่ปุ่น-ทะเลอันดามัน ลั่นขอฝากประเทศชาติไว้ด้วย

ที่ กระทรวงมหาดไทย (มท.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เชิญสื่อมวลชนรับประทานอาหารร่วมกัน โดยมี นายนริศ ขำนุรักษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และข้าราชการระดับสูงเข้าร่วมด้วย ในโอกาสอำลาตำแหน่ง

อนุพงษ์

ทั้งนี้ พล.อ.อนุพงษ์ เปิดใจกับสื่อมวลชนว่า สื่อมวลชนมีส่วนสำคัญที่จะสร้างการรับรู้ให้กับประชาชน ผมเข้าใจ ที่อาจจะมีคำถามแรง ๆ หากมีการถามอวย คนก็ไม่ฟัง ต้องมีการถามแรง ๆ บ้างอะไรบ้าง ซึ่งสื่อหลายคนที่อยู่ตรงนี้ ก็ติดตามทำข่าว มาตั้งแต่ผมเป็นผู้บัญชาการทหารบก อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาผมได้รับความเมตตาจากสื่อมวลชนถ้าพูดแบบไทย ๆ แม้บางคนถามแรงแต่ก็ถือว่าทำงานด้วยกัน

ในเรื่องของบ้านเมืองไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นทั้งสิ้น สื่อมีความสำคัญ และมีอิทธิพล ในการทำให้สังคมรับรู้แนวคิด ซึ่งภาครัฐก็ทำงานอย่างเต็มที่ มีการปรับตัว เผยแพร่ ผ่านระบบ ออนไลน์มากขึ้น ภาครัฐยังทำงานแบบราชการแต่ถ้าสื่อพูดสังคมจะฟังจึงขอฝาก สังคมจะไปในทิศทางใด ขึ้นอยู่กับสื่อในการนำเสนอข่าว เขียนไปในทางที่ดีหรือความแตกแยก ดังนั้นขอฝากสื่อด้วย รวมถึงประเทศชาติฝากไว้กับสื่อเพราะในเร็ววันนี้อย่างที่ทราบกันดี วันใดที่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณแล้ว ผมและนายนริศก็ถือเป็นประชาชน เหมือนพวกท่าน เท่านั้น ซึ่งจะเป็นผู้รับผลประโยชน์จากทางการเมืองเหมือนกันไม่ว่าเขาจะตัดสินใจในเรื่องอะไร จะขึ้นภาษีหรือลดภาษี ผมก็ต้องได้รับผลจากผู้ที่อยู่ในอำนาจรัฐเหมือนกัน จึงขอฝากประเทศชาติไว้ด้วย

อนุพงษ์

“หากจะถามว่ารัฐมนตรีที่มาใหม่ ดูแลกระทรวงมหาดไทยนั้น ในเรื่องของการบริหารราชการแผ่นดินเรามาด้วยระบอบประชาธิปไตย เป็นการเลือกตั้งเข้ามาและมีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี มีแนวคิดหรือนโยบายแนวทางอย่างไร ถือเป็นอำนาจหน้าที่ เราไม่ต้องไปห่วง ทฤษฎีของผม คือ เมื่อเราคิดและทำก็คิดว่าเราจะทำได้ ขณะที่คนเข้ามาใหม่ เขาคิดจะทำแบบใดก็ต้องเคารพกันไม่ต้องเป็นห่วงเป็นใย สมมุติว่าใครที่คิดจะทำอะไรแล้วสื่อจะเป็นตัวบาลานซ์ สื่อจะมาวิจารณ์ว่าควรทำไม่ควรทำและจะมีผลกระทบอย่างไร ตรงนี้จะเป็นการลงตัวของสังคม ใครที่มาใหม่ผมก็ให้กำลังใจ ในการทำงาน ซึ่งการบริหารราชการแผ่นดินจะแนวทางไหนเราก็ต้องเคารพตามอำนาจหน้าที่ของเขา

“เมื่อพวกเราเป็นประชาชนก็คอยนั่งเชียร์อยู่ข้างนอกคอย นั่งเชียร์ อยู่ข้างนอก เขาทำดีเราก็ได้รับผลประโยชน์ด้วย ผมใช้ชีวิตง่าย ๆ หากจะถามว่าหลังจากนี้จะไปทำอะไร อายุขนาดนี้คงต้องรักษาสุขภาพในช่วงท้ายของชีวิตไม่ให้มีปัญหาสุขภาพมาก ต้องดูแลร่างกายพักผ่อน ออกกำลังกายทำในสิ่งที่ควรทำ หลายคนบอกให้ไปเลี้ยงหลาน ไอ้เราก็ยังไม่มีหลาน ลูกไม่ยอมมีเป็นเด็กรุ่นใหม่ มีครอบครัวแต่ไม่มีหลาน” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว

อนุพงษ์
ภาพจากเฟซบุ๊ก Wassana Nanuam

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวอีกว่า ต้องขอบคุณข้าราชการกระทรวงมหาดไทยที่ร่วมงานด้วยกันมา 9 ปีเต็ม กระทรวงมหาดไทยถ้าเทียบกับกองทัพบก มีหน่วย ทหาร วัฒนธรรม คล้าย ๆ กัน แตกต่างกันที่กระทรวงมหาดไทยไม่ต้องสวมเครื่องแบบทุกวัน แต่การทำงานของข้าราชการกระทรวงมหาดไทย ผมเชื่อมั่นในความสามารถของข้าราชการ เพียงแต่อย่าไปวุ่นวายในสิ่งที่ไม่ควร แค่นั้น และยอมรับว่าที่ผ่านมาข้าราชการกระทรวงมหาดไทยก็ทำให้ตนมีวันนี้ได้อยู่มาถึง 9 ปีเต็มในวันนี้ (30 ส.ค.) หลังจากนี้ จะใช้เวลาพักผ่อน โดยตั้งใจจะไปพักผ่อนที่ญี่ปุ่น ที่สำคัญทะเลอันดามันในประเทศไทยก็จะไปให้ได้ ตลอดเวลาที่ผ่านมา มีแต่ไปทำงาน ไม่เคยเห็นทะเล แม้แต่ภูทับเบิกก็อยากจะเดินทางไปเพราะสวย

จากนั้น พล.อ.อนุพงษ์ และข้าราชการระดับสูงกระทรวงมหาดไทย ได้ร่วมกันถ่ายภาพกับสื่อมวลชนอย่างชื่นมื่น โดยเฉพาะ พล.อ.อนุพงษ์ ดูเหมือนผ่อนคลายร่วมกับสื่อมวลชน ถ่ายรูปเซลฟี่ ร่วมกับผู้สื่อข่าวและช่างภาพอย่างเป็นกันเอง

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK