“เพื่อไทย” ปิดจ๊อบ! 315 เสียง พรรค 2 ลุงมาครบ แบ่งเค้ก 9 ส.ส.ได้ 1 เก้าอี้
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทย (พท.) ถึงการรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทย ได้ร่วมกับพรรคการเมืองต่างๆ และแถลงร่วมยกมือโหวตให้กับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ไปแล้วจำนวนมาก ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย (ภท.) 71 เสียง พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) 10 เสียง พรรคประชาชาติ (ปช.) 9 เสียง พรรคเพื่อไทรวมพลัง (พทล.) 2 เสียง พรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) 2 เสียง ส่วนพรรคเสรีรวมไทย (สร.) พรรคพลังสังคมใหม่ พรรคท้องที่ไทย พรรคประชาธิปไตยใหม่ พรรคละ 1 เสียง รวมเป็น 239 เสียง ล่าสุดพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แม้จะยังไม่แถลงข่าวร่วมกัน แต่ก็แสดงความชัดเจนว่าจะยกมือ 40 เสียงให้พรรคเพื่อไทย ทำให้มีเสียงรวมกันอยู่ที่ 278 เสียง
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จะมายกมือโหวตให้กับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย หากเป็นเช่นนั้นจะเพิ่มอีก 36 เสียง ทำให้รวบรวมเสียงได้ 314 เสียง ทำให้ต้องได้เสียงสว. เพิ่มเติมเพียง 60 เสียงเพื่อมีเสียงรัฐสภา 374 เสียง หรือเกินกึ่งหนึ่งของที่ประชุมรัฐสภา เพื่อผลักดันแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย
ในส่วนของเก้าอี้รัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวในรายการ “อยากมีเรื่องคุย” ถึงการแบ่งโควตารัฐมนตรีว่า การเลือกคณะรัฐมนตรี(ครม.)
1. เราควรพยายามคิดใหม่ เอาวาระประชาชน วาระประเทศเป็นตัวตั้ง
2. ต้องยอมรับความจริงของกำลังทางการเมืองที่จะเข้ามาร่วมรัฐบาล เราอยู่ในระยะเปลี่ยนผ่าน ต้องมาดูว่าเราทำอะไรได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าคิดแบบอุดมคติล้วนก็ตั้งไม่ได้
“สมมติวันนี้เราตั้งรัฐบาลให้มีเสถียรภาพ 300 หรือ 310 เสียง มีกี่พรรค แต่ละพรรคมีคนเท่าไหร่ ก็เอามาหาร 310 เฉลี่ย 9 คนมีรัฐมนตรี 1 คน พรรคอื่น ๆ ก็เป็นแบบนี้ เป็นวิธีที่ทำมาตลอด แต่มีเงื่อนไขว่า เราขอได้หรือไม่ ต้องต่อรองกันและเคารพพรรคที่มาร่วม ต่อรองได้มากน้อยแค่ไหนอยู่ที่การพูดคุยกัน” นายภูมิธรรม กล่าว
อ่านข่าวเพิ่มเติม