“พล.อ.ประวิตร” มุ่งมั่นแก้ปัญหาปากท้องประชาชน ตามคำมั่น 4 ปีที่ผ่านมา วางรากฐานพัฒนาแหล่งน้ำกว่า 2 หมื่นแห่ง เพิ่มคุณภาพชีวิต ถือประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ตนได้ผลักดัน และขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มุ่งมั่นแก้ปัญหาเรื่องปากท้องประชาชน ให้คนไทยกินดีอยู่ดี ตามแนวทาง และนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ
อาชีพของประชากรไทยส่วนใหญ่คือเกษตรกร การพัฒนาแหล่งน้ำ จึงเป็นต้นทุนการประกอบอาชีพที่สำคัญ ที่ได้วางรากฐานการจัดหาน้ำให้เพียงพอตลอดทั้งปี และยังสามารถรับมือกับภัยแล้ง และอุทกภัยที่อาจจะเกิดขึ้น
เช่นในขณะนี้ ที่ภาวะอากาศในประเทศไทยร้อน ฝนไม่ตกตามฤดูกาล นับเป็นเป้าหมายสำคัญของการพัฒนาแหล่งน้ำที่ยั่งยืน เพื่อลดผลกระทบ ม่ให้ประชาชนเกิดความเดือดร้อนในการประกอบอาชีพ และสามารถสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีน้ำใช้ในการอุปโภค-บริโภค และภาคการเกษตร
พล.อ.ประวิตร ระบุว่า รัฐบาลได้สนับสนุนงบกลาง มาใช้ในโครงการบรรเทาผลกระทบภัยแล้ง และป้องกันน้ำท่วม โดยบูรณาการทุกหน่วยงาน ภายใต้การบริหารคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ที่ได้ผลักดันในการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็ก ระบบกระจายน้ำเพื่อสนับสนุนน้ำอุปโภค-บริโภค
รวมถึง การเกษตร ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ รวมทั้งสิ้น 26,830 แห่ง เช่น การขุดเจาะบ่อบาดาล แหล่งน้ำสำรองเพื่อผลิตน้ำประปา ก่อสร้างฝายและสระเก็บน้ำเพื่อการเกษตร ขุดลอกคลอง และกำจัดวัชพืช ถือว่ามีความจำเป็นเร่งด่วน และสามารถแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ยังมีแผนการพัฒนาโครงการอ่างเก็บน้ำในหลายแห่งที่ยังประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำ อาทิ โครงการอ่างเก็บน้ำแม่ตาช้าง ตำบลป่าแดด จังหวัดเชียงราย เพื่อใช้เป็นแหล่งน้ำในการอุปโภคบริโภค และประกอบอาชีพทางการเกษตร
หลังจากที่ประชาชนรอคอยมายาวนานถึง 30 ปี ได้บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สานฝันให้ประชาชนจนเป็นผลสำเร็จ ซึ่งในปี 2569 ประชาชนในพื้นที่ ตำบลป่าแดด และในพื้นที่ใกล้เคียง จะมีแหล่งน้ำไว้ใช้อุปโภค บริโภค และภาคการเกษตร เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี มั่นคง และยั่งยืน ให้กับคนลุ่มน้ำลาวตอนกลาง และตอนล่าง
“การทำงานของผมตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ไม่เคยมีวันใดที่หยุดพัก ดีใจที่ได้ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน ผมอาจจะเป็นคนพูดไม่เก่ง ไม่เคยออกมาบรรยายสรรพคุณ คุณงามความดีต่อสาธารณชน เพราะผมเชื่อว่า การทำงานจะต้องวัดจากผลงานที่เป็นประจักษ์ มิใช่การวัดเอาจากคำพูด โดยการเอาประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง”
“โครงการต่างๆ จะส่งผลให้สามารถเก็บกักน้ำในช่วงฤดูฝนใช้ประโยชน์ในช่วงหน้าแล้งได้รวม 742 ล้าน ลบ.ม. และยังสามารถนำน้ำบาดาลมาใช้ได้ถึง 91 ล้าน ลบ.ม. โดยมีน้ำดิบผลิตประปาได้อีก 62 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งเกิดประโยชน์โดยตรงกับประชาชนถึง 3.65 ล้านครัวเรือน ครอบคลุมพื้นที่กว่า 7.5 ล้านไร่”
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘พล.อ.ประวิตร’ ลงพื้นที่นราธิวาส ติดตามสถานการณ์น้ำ ตรวจความพร้อมสร้างสะพานเชื่อมเศรษฐกิจไทย-มาเลย์
- ‘ประวิตร’ ติดตามแผนรับมวลน้ำสระบุรี ระดมทุกหน่วย ป้องกันอุทกภัย-เตือนภัยประชาชน
- ‘ประวิตร’ ดัน ‘อีสาน’ พื้นที่เศรษฐกิจใหม่เชื่อมโลก เร่งสร้างที่ทำกิน-พัฒนาแหล่งน้ำ หนุนกินดีอยู่ดี