“สุริยะ” ยัน “บัตรประชารัฐ” ตอบโจทย์จนทุกพรรคเตรียมสานต่อ ปัด “พปชร.” เกี่ยวข้องกับทหาร ย้ำ “ประยุทธ์” ลงพื้นที่ตรวจราชการไม่ใช่ช่วยหาเสียงทางอ้อมให้ “พลังประชารัฐ”
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคอีสาน พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่หาเสียงในจังหวัดขอนแก่น พบว่าคะแนนความนิยมของพรรคดีขึ้นตามลำดับ จึงมั่นใจว่าจะได้เก้าอี้ ส.ส. ขอนแก่น พอสมควร โดยนโยบายที่ชาวขอนแก่นชื่นชอบ คือ บัตรประชารัฐ ซึ่งรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ดำเนินการอยู่ในขณะนี้ และหากพรรคพลังประชารัฐได้เป็นรัฐบาลก็จะสานต่อทันที รวมทั้งนโยบายเรื่องข้าว ที่ช่วยเหลือค่าเกี่ยวไร่ละ 2,000 บาท จำนวน 20 ไร่ รวม 40,000 บาท ซึ่งมั่นใจว่าทำได้จริง
ส่วนที่มีการวิจารณ์ว่า พรรคใช้งบประมาณมหาศาลในนโยบายต่างๆนั้น ซึ่งเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค ได้พูดคุยกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง พบว่านโยบายทุกโครงการที่พรรคนำเสนอต่อประชาชน ทำได้จริง ไม่กระทบต่อหนี้สาธารณะของประเทศ
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้าทุกพรรคไม่เห็นด้วยกับบัตรประชารัฐ แต่มาขณะนี้กลับจะมาสานต่อนั้น ย่อมสะท้อนให้เห็นว่า บัตรประชารัฐตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง จนทุกพรรคนำแนวทางนี้ไปหาเสียง แต่อยากขอย้ำว่า เรื่องดังกล่าวผู้ที่เข้าใจและทำได้ดีที่สุดคือพลังประชารัฐ จึงอยากให้ประชาชนเลือกของแท้ ซึ่งดีกว่าของก็อปปี้แน่นอน
สำหรับกระแสข่าวว่าไปหารือฝ่ายทหาร และได้รับข้อมูลว่าพรรคได้คะแนน ส.ส. ทั่วประเทศเพียง 60 ที่นั่ง จนแกนนำบางคนถอดใจนั้น ยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง และยืนยันว่าพรรคกับทหารไม่เกี่ยวกัน ตนและแกนนำพรรคก็ไม่เคยไปพบทหารเพื่อประเมินสถานการณ์ ซึ่งเป้าหมายที่พรรคจะได้ ส.ส. ก็ไม่เคยเปลี่ยน คือ 150 ที่นั่งขึ้นไปอย่างแน่นอน
นายสุริยะ กล่าวด้วยว่า กรณีมีการกล่าวหาว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่กล้าร่วมเวทีปราศรัยของพรรคพลังประชารัฐ แต่ใช้วิธีลงพื้นที่ตรวจราชการแทนเหมือนเป็นการช่วยหาเสียงทางอ้อม เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง เพราะนายกฯได้ลงพื้นที่มาอย่างต่อเนื่องและทำมาก่อนหน้านี้ ไม่ได้เพิ่งมาทำตอนพลังประชารัฐหาเสียง ซึ่งขอยืนยันว่า ไม่เกี่ยวกัน
“ขอให้พรรคการเมืองต่างๆเลิกโจมตีประเด็นนี้และเอาเวลาไปหาเสียงนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนจะดีกว่า เพื่อให้ประชาขนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เช่น พรรคพลังประชารัฐ นำเสนอนโยบายที่เป็นประโยชน์และทำได้ทันทีหากเป็นรัฐบาล อย่าง บัตรประชารัฐ , มารดาประชารัฐ ที่ดูแลตั้งแต่ตั้งครรภ์ถึง 6 ปี รวม 181,000 บาท นอกจากนี้ ยังมีนโยบายผลักดัน ราคามันสำปะหลัง ให้อยู่ที่กิโลกรัมละ 3 บาทขึ้นไป ราคายางพารา กิโลกรัมละ 65 บาท และ อ้อย ตันละ 1,200 บาท เป็นต้น”นายสุริยะ กล่าว
