Politics

‘เศรษฐา’ ย้ำ! ‘เพื่อไทย-ก้าวไกล’ ยังจับมือกันอยู่ เชื่อไม่แตกแถวโหวตนายกฯ

“เศรษฐา” ย้ำ! “เพื่อไทย-ก้าวไกล” ยังจับมือกันอยู่ เชื่อไม่แตกแถวโหวต “พิธา” นั่งนายกรัฐมนตรี พร้อมหวังว่าจะจบได้ด้วยดี

นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวของ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงท่าทีของ ส.ว. ที่ชัดเจนว่าไม่สนับสนุน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล ว่า ผมไม่แน่ใจว่าชัดเจนขนาดไหน แต่นายพิธาก็บอกว่าน่าจะรวบรวมได้ 376 เสียง ก็เป็นกำลังใจให้ และมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยเราไม่แตกแถว

เศรษฐา

เมื่อถามว่า มีเสียงออกมาชัดเจนว่าไม่สนับสนุนนายพิธา แต่หากเป็นแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย ก็พร้อมที่จะสนับสนุน นายเศรษฐา กล่าวว่า ยินดีครับ จริง ๆ แล้ว 8 พรรคเราก็มี 312 เสียง ก็ต้องการอีกแค่ 64 เสียง ก็น่าจะผ่านได้ ซึ่งก็ยังมีความหวังและยังมั่นใจ ย้ำว่านายพิธาก็มั่นใจว่าจะได้ 376 เสียง

เมื่อถามว่า ส.ว. ควรที่จะยึดหลักการหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้บอกว่ายึดหลักการที่ใครรวบรวมเสียงข้างมากได้ก็พร้อมที่จะสนับสนุน แต่ขณะนี้ก็มี ส.ว. หลายคนออกมาบอกชัดเจนว่ามีเงื่อนไขเรื่องมาตรา 112 ที่ทำให้ไม่สามารถสนับสนุนนายพิธาได้ นายเศรษฐา กล่าวว่า มี ส.ว. หลายคนออกมาให้ความเห็น แต่ก็มีหลายคนที่ยังไม่ออกความเห็น ซึ่งเชื่อว่าวันที่จะมีการโหวตกัน เขาน่าจะทำตามฉันทามติของพี่น้องประชาชน

เมื่อถามว่า มองว่าหากการโหวตเลือกนายกฯ ครั้งแรกไม่ได้ ควรที่จะให้โอกาสอีกครั้งหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตรงนี้ต้องมานั่งดูว่าคะแนนเสียงที่ได้เป็นอย่างไรบ้าง ผมเชื่อว่าหากคะแนนขาดอยู่เล็กน้อย ก็น่าจะมีการให้โอกาสกันบ้าง ส่วนที่หลายคนบอกว่าหากท้ายที่สุดแล้วนายพิธาไม่ได้ แล้วต้องตกมาที่เพื่อไทยนั้น ผมไม่อยากคิดตรงนั้น เพราะเราอยู่พวกเดียวกัน และต้องโหวตให้กันอยู่แล้ว ซึ่งจะไม่เหมาะสมหากผมจะคอมเมนท์ไปในแง่อื่น

เศรษฐา

เมื่อถามว่า หากพรรคก้าวไกลยังอยู่ในสมการจัดตั้งรัฐบาล ก็จะไม่ได้รับเสียงที่เพียงพอจาก ส.ว.มองว่ามีโอกาสที่พรรคก้าวไกลจะยอมสละตัวเองออกจากพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลเดินหน้าต่อได้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่มีการคุยเรื่องที่ก้าวไกลจะสละตัวเองออก เราตัวติดกัน เรามาจากฝ่ายประชาธิปไตย และ 8 พรรคก็เซ็นเอ็มโอยู เรียบร้อยแล้ว ส่วนประเด็นที่บอกว่าเราจะแยกจากกัน ผมไม่เคยได้ยิน

เมื่อถามย้ำว่า ส.ว.เอง ก็บอกว่าพร้อมจะสนับสนุนพรรคเพื่อไทย ภายใต้เงื่อนไขที่พรรคก้าวไกลต้องถอยออกจากพรรคร่วมรัฐบาล นายเศรษฐา กล่าวว่า ผมเข้าใจว่าเป็นความเห็นของ ส.ว.ท่านเดียวที่พูดมา ซึ่งก็ยังมั่นใจว่า ส.ว.ส่วนใหญ่คงน่าจะให้การสนับสนุนเสียงที่มาจากพี่น้องประชาชน

เมื่อถามอีกว่า ขณะนี้ ส.ว. ส่วนใหญ่ก็ได้ส่งสัญญาณมาแล้วว่าจากที่เคยจะโหวตให้นายพิธา ตอนนี้ก็เริ่มลดลง ถือว่าจะเป็นโอกาสดีให้พรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายเศรษฐา ย้อนถามกลับว่า โอกาสดีคืออะไร ผู้สื่อข่าวถามว่า ส.ว.เห็นว่ามีมาตรา 112 และในเอ็มโอยูที่ออกมาพรรคเพื่อไทยก็ประกาศชัดเจนว่าจะไปแตะมาตรา 112 นายเศรษฐา กล่าวว่า “ผมว่าก็ต้องปฏิบัติตามเอ็มโอยู”

เศรษฐา

เมื่อถามว่า หากการโหวตครั้งแรกไม่ผ่าน ก็ต้องมีครั้งที่ 2 มองว่าต้องมีครั้งที่ 3 ครั้งที่ 4 หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปไกลขนาดนั้นเลย ไปทีละสเต็ปดีกว่า อย่างที่บอกว่าเรามาจากฝ่ายประชาธิปไตย และเราเองก็คุยกันรู้เรื่อง การโหวตประธานสภา ก็ผ่านไปได้ด้วยดี การโหวตเลือกนายกฯ ก็หวังว่าจะจบได้ด้วยดี

เมื่อถามถึงกรณีที่ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ในฐานะว่าที่รองประธานสภาคนที่ 2 ออกมาให้ความเห็นว่าหากโหวตนายกฯ ครั้งแรกไม่ผ่าน จะมีการโหวตนายกฯ ครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 ใหม่ ในวันที่ 19 และ 20 กรกฎาคม นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นความเห็นของนายพิเชษฐ์ และการกำหนดวันประชุมเป็นหน้าที่ของประธานสภาฯ และเป็นหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ ผมไม่ไปก้าวล่วงตรงนี้

เมื่อถามย้ำว่า พรรคก้าวไกลควรลดเพดานเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 ลงเพื่อให้ได้เสียงสนับสสนุนจาก ส.ว.หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ทุกอย่างเราทำตามเอ็มโอยูที่เซ็นไป ส่วนการจะแก้ไขเอ็มโอยูได้หรือไม่นั้น ผมคิดว่า ณ จุดนี้คงไม่สามารถแก้ไขได้เพราะเซ็นกันไปแล้ว

เมื่อถามย้ำว่า จะจับมือกับพรรคก้าวไกลตลอดไปใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็จับมือครับ และวันนี้ก็ยังจับมือกันอยู่ ไม่ได้มีอะไรผิดใจกัน และยังมีการประชุมกันอยู่อย่างต่อเนื่อง

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo