Politics

‘เศรษฐา’ ลั่นเราไม่ทรยศ! มั่นใจ ‘พิธา’ ได้เป็นนายกรัฐมนตรีแน่นอน

เราไม่ทรยศ! “เศรษฐา” ลั่น! ฝ่ายประชาธิปไตยต้องจับมือกัน เพื่อจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ มั่นใจ “พิธา” ได้เป็นนายกรัฐมนตรีแน่นอน

นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีการเลื่อนประชุมระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลเรื่องประธานสภาว่า ขณะอยู่ในขั้นตอนการเจรจา แต่หากถามว่าจะจบอย่างไรนั้น ผมคิดว่าคงเหมือนเดิมคือ ฝ่ายประชาธิปไตยต้องจับมือกัน เพื่อจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ ซึ่งเรื่องตำแหน่งประธานสภายังมีเวลาอีก 3-4 วัน เชื่อว่าการเจรจาจะออกมาด้วยดี ไม่มีประเด็นอะไรมาหยุดยั้งการจัดตั้งรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตยได้

เศรษฐา

เมื่อถามว่า แม้ว่าเพื่อไทยจะแสดงจุดยืนอย่างไร แต่ทัวร์ก็จะมาลงบอกว่าเพื่อไทยทรยศ แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ปฏิเสธว่า ไม่มีหรอก เราไม่ทรยศ ซึ่งเราพูดมาตลอดมาว่าเราเคารพเสียงของประชาชน และเราฟังทุกเสียง ไม่ว่าจะเป็นเสียงของ ส.ส. หรือคณะกรรมการบริหาร ผมคิดว่าเรื่องสำคัญที่สุดคือเรื่องธงต้องไม่เปลี่ยน คือฝ่ายประชาธิปไตยต้องจับมือกันและจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ เพื่อจะได้มีรัฐบาลใหม่มาบริหารจัดการประเทศและช่วยเหลือประชาชน
ส่วนหากการหาข้อยุติเรื่องประธานสภาที่ล่าช้าออกไปจะทำให้ประชาชนมองว่าเป็นการแย่งตำแหน่งกันหรือไม่นั้น มองว่า คงไม่เป็นการแย่ง เราเซ็นเอ็มโอยูไปแล้ว จับมือกันแล้ว ขณะนี้คงต้องเป็นการคุยรายละเอียด ซึ่งเชื่อว่าจะคุยกันรู้เรื่อง และมั่นใจว่าจะไม่มีการพลิกขั้ว อย่างไรเพื่อไทยกับก้าวไกล ก็จับมือไปด้วยกัน จนกระทั่งไปถึงปลายทาง ซึ่งขณะนี้ขั้นตอนการเจรจายังไม่จบ แม้จะไม่ได้อยู่ในคณะกรรมการเจรจา แต่ก็ได้รับฟังว่าพูดคุยกันเป็นไปด้วยดี

เศรษฐา
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์

ถามถึงกรณีที่พรรคก้าวไกลมีการเปิดตัวนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล และมีการแสดงวิสัยทัศน์ สำหรับตำแหน่งประธานสภา จนถูกมองว่าออกตัวแรงไปแล้วนั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า อย่ามองว่าเป็นการออกตัวแรง เขามีความชัดเจนมากกว่า เขาคงมีการโหวตกันภายในเป็นไปตามครรลองของพรรค และยืนยันว่าการเลือกประธานสภา ไม่ได้เป็นอุปสรรคใด ๆ ในการจัดตั้งรัฐบาลของฝ่ายประชาธิปไตย

เมื่อถามว่า ท้ายที่สุดแล้วพรรคเพื่อไทยหรือพรรคก้าวไกลจะต้องถอยหรือไม่ หรือต้องมีการปรับสูตรสมการ นายเศรษฐา กล่าวว่า อย่าคิดว่าเป็นการเสียสละ การยกให้ หรือเป็นการถอย แต่เป็นการคุยกับฝ่ายที่มีเป้าหมายเดียวกัน และจับมือจัดตั้งรัฐบาลด้วยกัน และเชื่อว่าทั้ง 2 พรรคจะคุยกันรู้เรื่อง แม้ว่าการตกลงจะออกมาทางใดทางหนึ่ง แต่เป้าหมายหลักจะไม่เสีย

ทั้งนี้ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้จะไม่กระทบกับการรีแบรนด์ของพรรคเพื่อไทย เพราะเป็นเรื่องภายในของพรรคเพื่อไทย เราก็ทำของเราต่อไป ส่วนพรรคเพื่อไทยจะมีการเปิดรายชื่อประธานสภาเมื่อไหร่นั้น ผมไม่ทราบเพราะไม่ได้เป็นคณะกรรมการบริหาร และมั่นใจว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกฯ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล จะได้รับฉันทามติโหวตให้เป็น “นายกรัฐมนตรี” อย่างแน่นอน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo