Politics

1 เดือนหลังเลือกตั้ง ‘ก้าวไกล’ ร่ายยาว ‘ว่าที่ ส.ส.’ เดินหน้าทำงานเปลี่ยนประเทศ

1 เดือนหลังเลือกตั้ง “ก้าวไกล” ร่ายยาว “ว่าที่ ส.ส.” เดินหน้าทำงานเปลี่ยนประเทศ ย้ำ!! รัฐบาลก้าวไกล ประเทศไทยต้องไม่เหมือนเดิม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊ก พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความระบุว่า 14 มิถุนายน 2566 คือวันครบรอบ 1 เดือนของการเลือกตั้งที่ประชาชนทั้งประเทศ มอบอำนาจและความไว้วางใจให้พรรคก้าวไกลมากเป็นอันดับ 1 ถึง 14,438,851 เสียง ผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต 112 คน และผู้แทนราษฎรบัญชีรายชื่อ 39 คน ทำให้พรรคก้าวไกลกลายเป็นพรรคอันดับหนึ่ง

ก้าวไกล

พวกเรามีความฝันร่วมกันที่จะเปลี่ยนประเทศนี้ให้ดีขึ้น พวกเราเชื่อว่าโครงสร้างทางอำนาจ วิธีการบริหารประเทศ และผู้บริหารแบบเดิมไม่สามารถสร้างอนาคตให้กับประเทศนี้ได้

ตลอด 1 เดือนหลังการเลือกตั้ง ถึงแม้ว่า กกต. จะยังไม่รับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ แต่ว่าที่ ส.ส.พรรคก้าวไกลทุกคน ต่างเดินหน้าแข็งขันเพื่อเปลี่ยนประเทศ ตั้งแต่การแก้ปัญหาระดับพื้นฐานที่สุดในพื้นที่ การพบพูดคุยกับผู้คนกลุ่มคนต่างๆ เพื่อแสวงหาฉันทามติในการผลักดันนโยบาย และการทำงานศึกษานโยบายและการทำงานที่ผ่านมาของหน่วยงานเพื่อเปลี่ยนประเทศ

ก้าวไกล

พวกเราทำอะไรไปแล้วบ้าง?

1. ทันทีที่เราได้รับความไว้วางใจจากประชาชน พรรคก้าวไกลได้ประชุมอดีตพรรคร่วมฝ่ายค้านทั้งหมดที่มีจุดยืนต่อต้านอำนาจเผด็จการเพื่อจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน ทำให้มีจำนวนเสียง ส.ส. ในสภา 313 เสียง ซึ่งเป็นเสียงข้างมากเด็ดขาด

2. พวกเราได้จัดประชุมเพื่อลงนามใน MOU หรือข้อตกลงร่วมจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งประกอบไปด้วย 23 วาระที่สำคัญ เช่น การผลักดันกระจายอำนาจ สมรสเท่าเทียม การฟื้นฟูเศรษฐกิจ การสร้างสวัสดิการประชาชน รวมทั้งยังได้ตกลงที่จะปฏิบัติตามแนวทางอีก 5 ข้อ เพื่อสร้างการบริหารประเทศที่ดี

3. พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลยังได้เดินหน้า ตั้งคณะกรรมการเปลี่ยนผ่านอำนาจรัฐบาล (Transition Team) ขึ้นมา เพื่อศึกษาและขับเคลื่อนนโยบายในระหว่างการรอการรับรองผลการเลือกตั้งและจัดตั้งรัฐบาล

4. พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้เดินหน้าพบตัวแทนผู้คนกลุ่มต่าง ๆ ในสังคม เพื่อหาฉันทามติร่วมกันในการผลักดันนโยบายการบริหารประเทศ

ก้าวไกล

กลุ่มคนที่พวกเราไปพบมาแล้ว….ประกอบด้วย

  • ตัวแทนจาก World Economic Forum เพื่อสร้างความร่วมมือ รวมทั้งพูดคุยถึงความเป็นไปได้ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพการจัดประชุมการประชุมประจำปี Davos World Economic Forum ที่ผู้นำประเทศ นักธุรกิจ นักวิชาการ ตลอดจนผู้นำกิจกรรมจากประเทศต่างๆ ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับทิศทางของเศรษฐกิจโลก และความท้าทายต่างๆ ที่นานาชาติต้องเผชิญ
  • เข้าพบสภาอุตสาหกรรม เพื่อรับฟังข้อเสนอนโยบายจากภาคอุตสาหกรรมพร้อมทั้งรับฟังปัญหา อุปสรรค และข้อกังวลของตัวแทนภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะนโยบายด้านการเพิ่มผลิตภาพ ความโปร่งใส และค่าแรง
  • พูดคุยกับสภาอุตสาหกรรมรุ่นใหม่ (Young FTI) เพื่อรับฟังข้อเสนอแนะในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ รวมทั้งปัญหาอุปสรรคจากภาครัฐที่นักธุรกิจต้องเผชิญ
  • พูดคุยกับกลุ่มกลุ่มสุราพื้นบ้าน-คราฟต์เบียร์ ที่ฝากความหวังการผลักดันสุราก้าวหน้าให้สำเร็จ สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจทั่วประเทศ

ก้าวไกล

  • เข้าพูดคุยกับตัวแทน 45 สหภาพแรงงาน เพื่อรับฟังข้อเสนอเพิ่มเติมและตอบคำถามนโยบาย ในการเชื่อมต่อให้เกิดการทำงานร่วมกันหลังจากนี้
  • เข้าพบสภาหอการค้าไทย เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองด้านเศรษฐกิจ และยืนยันกับกลุ่มธุรกิจว่าโมเดลการพัฒนาประเทศแบบเดิมไม่สามารถพาประเทศไทยไปไกลกว่านี้ได้
  • ประชุมร่วมกับ 3 สมาคมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศไทย เพื่อยืนยันหลักการของนโยบายกระจายอำนาจ ว่าจะดำเนินไปอย่างแน่นอน 3 ขั้นตอน คือ ยกเลิกระเบียบมหาดไทยที่ไม่ให้อิสระท้องถิ่น, ทำประชามติเลือกตั้งผู้ว่าฯ และ ถ่ายโอนงาน-เงิน-คน ให้ท้องถิ่นให้ได้ปีละ 200,000 ล้านบาท
  • เข้าร่วมกิจกรรม Pride Month ยืนยันเดินหน้าสมรสเท่าเทียมให้ผ่านสภาทันทีภายใน 100 วัน ภายหลังเป็นรัฐบาล และจะผลักดันนโยบายเพื่อความเท่าเทียมทางเพศอื่นให้เกิดขึ้น
  • ประชุมร่วมกับผู้ว่าฯ กทม. เพื่อลดช่องว่างการทำงานร่วมกัน ระหว่างรัฐบาลกลางและกรุงเทพฯ รวมถึงกระชับการทำงานระหว่างกันให้ใกล้ชิดขึ้นในฐานะที่พรรคก้าวไกลเป็นพรรคที่ครองเสียงข้างใน กทม.
  • เข้าหารือแนวทางป้องกันปราบปรามการทุจริตกับองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ACT) พร้อมยืนยันนโยบายที่จะสร้างความโร่งใสใน 100 วัน และตั้งเป้าว่าดัชนีคอร์รัปชันต้องดีขึ้นภายในรัฐบาลก้าวไกล
  • เข้าพบสมาพันธ์ SME เพื่อรับฟังข้อเสนอแนะทางนโยบาย ในการผลักดันให้ SME มีสภา SME ของตนเองแบบเดียวกับบริษัทใหญ่มีสภาหอการค้า สภาอุตสาหกรรม สมาคมธนาคาร และสภาตลาดทุน

ก้าวไกล

5. นอกจากพิธาแล้ว ว่าที่ ส.ส. พรรคก้าวไกล เดินหน้าทำงานเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็น

  • “วิโรจน์” รับหนังสือและเอกสารหลักฐานเรื่องร้องเรียน “ส่วยทางหลวง” จาก สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของผู้ประกอบการและสมาคมที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งจำนวน 10 สมาคมทั่วประเทศ ซึ่งนำไปสู่การสั่งย้ายข้าราชการและสืบสวนข้อเท็จจริง
  • “ปกรณ์วุฒิ” รับหนังสือจากตัวแทนผู้ประกอบการธุรกิจกลางคืน ที่ฝากความหวังแก้ปัญหาส่วย และการแก้ไขกฎหมายให้ทันสมัย
  • “กรุณพล” เปิดเผยข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างที่ไม่เหมาะสมของกรมการข้าว
  • ด้านเครือข่ายผู้ใช้แรงงานพรรคก้าวไกล นำโดย ‘เซีย จำปาทอง’ ประกาศพร้อมยื่นร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ทันทีเมื่อเปิดสภาฯ ชุดใหม่ เพื่อการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนทำงาน พร้อมกับเชิญชวนประชาชนแสดงความคิดเห็นเพื่อปรับปรุงกฎหมายสหภาพแรงงาน เพื่อให้แรงงานมีอำนาจสมดุลกับผู้จ้างงาน มีสิทธิการรวมตัวและนัดหยุดงานตามหลักสากล สอดคล้องกับอนุสัญญาองค์การแรงงานฉบับที่ 87 และ 98
  • ส.ส. เขต ทั้ง 112 คน ที่เดินหน้าสำรวจปัญหาในพื้นที่และประสานงานกับส่วนราชการต่าง ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาให้ประชาชน

ก้าวไกล

คนที่กำหนดการทำงานของพรรคก้าวไกลคือประชาชน ไม่ใช่ กกต. หรือผู้มีอำนาจคนใด แต่ยิ่งมีการรับรองว่าที่ ส.ส. ได้เร็วเท่าไหร่ พวกเราจะสามารถเข้าสู่อำนาจรัฐเพื่อเข้าไปเปลี่ยนแปลงได้เร็วขึ้นเท่านั้น

ใน #รัฐบาลก้าวไกล ประเทศไทยต้องไม่เหมือนเดิม

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK