Politics

‘ศรีสุวรรณ’ บุก กกต. ส่งหลักฐานมัด ‘พิธา’ ถือครองหุ้น ITV

“ศรีสุวรรณ” บุก กกต. ยื่นพยานหลักฐานหุ้น ITV มัดพิธา แนะ กกต.ไม่ต้องรีบวินิจฉัย ปล่อยให้คนบางพวกอกแตกตาย

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2566 เวลา 16.00 น.ที่ผ่านมา สมาคมฯ ได้เดินทางไปยื่นพยานหลักฐานหลายชิ้น เกี่ยวกับการถือครองหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด(มหาชน) ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล จำนวน 4.2 หมื่นหุ้น

หุ้น ITV

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากสื่อมวลชน และโซเชียลมีเดีย ได้รายงานสอดคล้องต้องกันว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และเป็นผู้ที่พรรคก้าวไกลเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคว่า เป็นผู้ถือหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) จำนวน 4.2 หมื่นหุ้น

กรณีดังกล่าว น่าจะขาดคุณสมบัติผู้รับสมัครเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ ม.98(3) ที่บัญญัติว่า บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้ เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ฯลฯ เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ

ต่อมานายพิธา ได้ออกมายอมรับว่า หุ้นดังกล่าวไม่ใช่ของตน แต่เป็นของกองมรดก ตนเพียงมีฐานะผู้จัดการมรดกเท่านั้น แต่ถึงอย่างไรก็ตามบริษัทไอทีวียังมีการประชุมผู้ถือหุ้น และมีการยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรว่า ยังดำเนินกิจการอยู่ตามวัตถุประสงค์ของบริษัท และมีการส่งงบการเงิน และยื่นแบบภาษีเงินได้นิติบุคคลตามปกติ จะอ้างว่าหยุดประกอบกิจการไปแล้วมิได้

ศรี2

ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงรวบรวมพยานหลักฐานทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายมามอบให้ กกต. ให้แน่นหนามากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นข้อมูลในการพิจารณาวินิจฉัยอย่างรอบคอบ

ทั้งนี้ เพื่อให้ตรวจสอบคุณสมบัติของนายพิธาว่า ขาดคุณสมบัติการเป็นผู้รับสมัครเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ ม.98(3) ประกอบ ม.42(3) แห่ง พรป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม หรือไม่อย่างไร

อย่างไรก็ตาม กกต.ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบวินิจฉัยก็ได้ ปล่อยให้คนบางพวกอกแตกตายไปก่อนก็ยังได้ แต่ควรจะพิจารณารวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดทั้งพยานบุคคล พยานเอกสาร พยานผู้เชี่ยวชาญ ฯลฯ ให้รอบด้านรัดกุมก่อนที่จะวินิจฉัย

ศรี

นอกจากนี้ หากจำต้องรับรองความเป็น ส.ส.ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ไปก่อนก็ยังได้ แต่เมื่อถึงเวลาที่จะต้องวินิจฉัย ก็ต้องนำเรื่องของสมาชิกภาพของความเป็น ส.ส. ตามรัฐธรรมนูญ 2560 ม.101(6) ประกอบ ม.98(3) ส่งต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยในขั้นสุดท้ายต่อไปด้วย

ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองไม่น่าเป็นห่วงมากนัก เพราะท้ายที่สุดประเทศไทยของเรามีพระสยามเทวาธิราชคอยปกป้องคุ้มครองบ้านเมืองอยู่ จึงเชื่อว่าใครคิดดีต่อบ้านต่อเมืองก็จะได้รับการคุ้มครอง แต่ถ้าใครคิดร้ายคิดทำร้ายทำลายบ้านเมือง ก็จะมีอันเป็นไปในที่สุด

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo