Politics

‘บิ๊กตู่’ โวยสื่ออย่าจุกจิกมากนัก! พร้อมขอร้องทุกคนอยู่ในความสงบเรียบร้อย

“บิ๊กตู่” โวยสื่ออย่าจุกจิกมากนัก! ขอร้องเถอะ มันไม่ใช่เรื่อง ไม่ใช่ประเด็น พร้อมขอร้องทุกคนอยู่ในความสงบเรียบร้อย

ผู้สื่อข่าวรายงานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (23 พ.ค.) ว่า ที่ประชุม ครม. ใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง การประชุมได้เสร็จสิ้นลงเมื่อเวลา 10.45 น. โดยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางกลับออกไปก่อน ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังคงใช้เวลาพูดคุยกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และรัฐมนตรีคนอื่นอีกระยะหนึ่ง

บิ๊กตู่

จากนั้นเวลา 11.11 น.พล.อ.ประยุทธ์ ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยมีคณะทำงานและ คนใกล้ชิดยืนเป็นกำลังใจ อาทิ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายธนากร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกฯ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และน.ส.ทิพานันท์ ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

ก่อนที่จะแถลงถึงวาระการประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวติงสื่อมวลชน พร้อมขอร้องถึงการจับตาดูความเคลื่อนไหวต่าง ๆ รวมทั้งการมีปัญหากับแว่นตาตั้งแต่ช่วงเช้าว่า รู้สึกจับตาดูทุกอย่างเลยนะ จะเดินอะไรก็ไม่ได้ อะไรหลุดก็ไม่ได้ทำนองนี้ ขอร้องว่าอย่าจุกจิกอะไรกับฉันมากนักเลยนะ ขอร้องเถอะ มันไม่ใช่เรื่อง ไม่ใช่ประเด็น มันจะยิ่งทำให้คนมีความรู้สึกว่ามันแย่มาก ก็ขอร้องแล้วกัน ช่วงนี้เป็นช่วงที่ต้องรักษาสถานการณ์ ให้ปกติมากที่สุด ก็ขอร้องกันให้ทุกคนอยู่ในความสงบเรียบร้อย

บิ๊กตู่

ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการตั้งรัฐบาลใหม่ ซึ่งเราก็พร้อม และวันนี้ก็ได้มีการย้ำเตือนในเรื่องของผลงานต่าง ๆ ของรัฐบาลก็ขอให้มีการเตรียมการไว้ให้ดีว่ามีรายละเอียดอะไรอย่างไรบ้าง เพราะวันข้างหน้าก็ต้องมีการส่งต่อให้กับรัฐบาลใหม่อยู่แล้วเมื่อได้ผ่านกระบวนการและขั้นตอนแล้วทุกขั้นตอนด้วยความเรียบร้อย ซึ่งใครจะเป็นก็แล้วแต่ซึ่งเราก็ทราบกันดีอยู่แล้วว่ายังอยู่อีกหลายขั้นตอน

“ช่วงนี้เราก็เป็นรัฐบาลรักษาการอยู่ ก็มีปัญหาอย่างเดียวคือมาตรา 169 ในเรื่องของการใช้งบประมาณใหม่ ซึ่งขณะนี้ยังทำไม่ได้เพราะเป็นภาระผูกพันของรัฐบาลใหม่ นั่นก็คือปัญหาที่เราจะทำเรื่องอะไรใหม่ ๆ ไม่ได้มากนัก เพราะงบประมาณมันไม่มี จำเป็นต้องประสานกับทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในทุก ๆ เรื่อง เช่น ค่าไฟ ที่ผ่านมาเราก็ได้รับความเห็นชอบกลับมาแล้วถึงทำได้ ที่ลดไป 70 สตางค์ที่ผ่านมา ซึ่งแนวโน้มในเรื่องของสถานการณ์เรื่องพลังงานต่าง ๆ ก็น่าจะดีขึ้นจากการประเมินในช่วงนี้ เพราะหลังจากเดือนสิงหาคมไปแล้ว ราคาพลังงานน่าจะลดลง แต่มันก็พร้อมที่จะขึ้นตลอดเวลาเนื่องจากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับภูมิรัฐศาสตร์เกี่ยวกับสงครามด้วยซึ่งราคาพลังงานก็ขึ้นลงตามฤดูกาล แต่แนวโน้มก็น่าจะลดลงในเรื่องของค่าไฟน่าจะถูกลงหลังจากเดือนสิงหาคมไปแล้ว ซึ่งก็เป็นเรื่องของกระทรวงพลังงานที่บริหารงานในเรื่องดังกล่าวอยู่อย่างดีที่สุด” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

บิ๊กตู่

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ในเรื่องของแหล่งพลังงานภายในประเทศหลายคนอาจจะยังไม่ทราบข้อมูลมากนักโดยเฉพาะเรื่องของการใช้ก๊าซในประเทศเพราะเป็นอยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่านเรื่องของสัญญากับบริษัทเชฟรอนซึ่งทาง ปตท. ได้เข้าไปทำแทนแล้วก็อยู่ระหว่างการส่งมอบพื้นที่ก็อยู่ช่วงรอยต่อที่จะดำเนินการในเรื่องดังกล่าวก็อาจจะมีปัญหาอยู่บ้างในเรื่องของทางกฎหมายจึงคาดว่ามีแนวโน้มที่จะสามารถนำขึ้นมาใช้ได้มากขึ้นแต่ปริมาณก็มีอย่างจำกัดอยู่ดีเพราะเรามีไม่มากนักแต่ก็พยายามจะใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุดซึ่งเป็นแผนที่ได้วางไว้

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK