“ศรีสุวรรณ” ร้อง สตง. สอบ “เศรษฐา ทวีสิน” และพรรคการเมือง แจกเงินดิจิทัล ขัดกฏหมายวินัยการเงินการคลังหรือไม่
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เพื่อขอให้ปฏิบัติหน้าที่และใช้อำนาจตาม ม.244 แห่งรัฐธรรมนูญ 2560 ประกอบ ม.6 ม.7 ม.8 ม.53 ม.54 แห่ง พรป.ว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2561 เพื่อตรวจสอบว่า นโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองที่จะแจกเงินดิจิทัลให้กับคนไทยประมาณ 5.5 แสนล้านบาทนั้น เสี่ยงต่อการทำลายระบบวินัยการเงินการคลังของรัฐตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่
สืบเนื่องจากกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย และพรรคเพื่อไทย ได้หาเสียงโดยการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ให้คนไทยที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปจำนวน 55 ล้านคน ๆ ละ 1 หมื่นบาท เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้กับพรรคเพื่อไทยและผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย
การกระทำดังกล่าว อาจเป็นการดำเนินการที่เข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมายหลายฉบับ และอาจก่อให้เกิดผลกระทบหรือความเสียหายอย่างรุนแรงต่อประโยชน์ของประชาชนในวงกว้าง ทั้งทางบวกและทางลบได้
นอกจากนี้ ยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากว่า จะมีผลกระทบต่อวินัยทางการเงินการคลังของรัฐอย่างมาก ซึ่งอาจขัดต่อพรบ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ 2561 และพรบ.วิธีการงบประมาณ 2561
อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าว ประชาชนไม่อาจพึงพาคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ได้ เพราะมัวแต่เดินทางไปตรวจการเลือกตั้งยังต่างประเทศ จะเห็นมีก็แต่ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่จะหาคำตอบให้กับคนไทยได้
ทั้งนี้เนื่องจากรัฐธรรมนูญ 2560 ม.244 กำหนดให้ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินมีอำนาจและหน้าที่ในการตรวจสอบนโยบายการใช้จ่ายเงิน ที่อาจทำให้การเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรมได้ โดยการทำความเห็นส่งหรือแจ้งไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องได้
ขณะเดียวกัน ก็จะทำให้องค์กรอิสระอย่าง กกต. และ ป.ป.ช. ทำงานง่ายขึ้นในการวินิจฉัยนโยบายกา
รหาเสียงดังกล่าวว่าว่าจะผลกระทบต่อวินัยทางการเงินการคลังของรัฐ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องเพียงใด
ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงต้องนำความมาร้องเรียนต่อผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เพื่อขอให้ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ และ พรป.ว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน 2561 ในการตรวจสอบนโยบายการแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทของพรรคเพื่อไทย ว่ามีความเสี่ยงที่จะเป็นการขัดต่อกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐหรือไม่
หากมีความเสี่ยง ก็ควรที่จะแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในการระงับ หรือยับยั้งความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นแก่การเงิน การคลังของรัฐดังกล่าวเสีย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘เพื่อไทย’ แจง 10 ข้อ แจกเงินดิจิทัล 1 หมื่น ยันไม่กระทบความมั่นคงระบบการเงิน
- เพื่อไทยบุกลำปาง ‘แพทองธาร’ ชูพักหนี้ 3 ปี ทั้งต้นทั้งดอก
- ‘เศรษฐา’ ยันกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ปั๊มเศรษฐกิจทั้งประเทศ