Politics

‘ประชาธิปัตย์’ คลอด 8 นโยบายล็อตสอง มั่นใจเรียกคะแนนเสียง

“ประชาธิปัตย์” แถลงเปิด 8 นโยบาย ชุดที่ 2 จากที่เปิดไปแล้ว 8 นโยบายเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา มั่นใจเรียกคะแนนฐานเสียงหลากกลุ่มทั่วประเทศ

วันนี้ (11 มี.ค.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้า พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมด้วย นายนิพนธ์ บุญญามณี นายอลงกรณ์ พลบุตร นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรค และนายพิสิฐ ลี้อาธรรม ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ ร่วมกันแถลงเปิด 8 นโยบาย ชุดที่ 2 ของพรรค

ประชาธิปัตย์

8 นโยบายเพิ่มเติม

  • อินเทอร์เน็ตฟรี 1 ล้านจุด ทุกหมู่บ้าน ทุกห้องเรียน

หมู่บ้านดังกล่าว หมายถึงชุมชนในเขตเมือง เขตเทศบาล เขตหน่วยการปกครองท้องถิ่น รวมทั้งในพื้นที่ชุมชนของกรุงเทพมหานครด้วย ซึ่งจะมีทั้งหมดประมาณ 80,000 หมู่บ้าน/ชุมชน และจะมีอินเทอร์เน็ตฟรี รวมกันในหมู่บ้าน/ชุมชน ประมาณ 6 แสนจุด

สำหรับห้องเรียน ทั่วประเทศมีประมาณ 350,000 ห้อง โดยจะจัดให้มีอินเทอร์เน็ตฟรีประมาณ 400,000 จุด รวมอินเทอร์เน็ตฟรี 1 ล้านจุด ทุกหมู่บ้าน/ชุมชน ทุกห้องเรียน

  • เรียนฟรี ถึงปริญญาตรี สาขาที่ตลาดต้องการ

จากการสำรวจเบื้องต้น โดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พบว่ามีสาขาที่ตลาดต้องการ มีอยู่อย่างน้อย 180,000 คน ใน 12 สาขาสำคัญ หากประชาธิปัตย์เป็นแกนตั้งรัฐบาล จะสนับสนุนให้มีการเรียนฟรีถึงปริญญาตรีในสาขาที่เป็นความต้องการของตลาด เพื่อให้เรียนจบแล้วมีงานทำ สนองตลาดนำการผลิตทางการศึกษาได้ทันที

  • ตรวจสุขภาพฟรี รักษาฟรี โดยใช้บัตรประชาชนใบเดียว

นโยบายนี้มี 2 เรื่องอยู่ในนโยบายเดียวกัน เรื่องที่ 1 คือ รักษาฟรี ที่เป็นมาตรการในการรักษาพยาบาล เรื่องที่ 2 คือตรวจสุขภาพฟรี เป็นมาตรการในการป้องกัน ดังนั้นถ้าพบว่ามีปัญหาสุขภาพก็จะทำการตรวจรักษาได้ทันท่วงที ถือเป็นการต่อยอดนโยบายเดิมของพรรคประชาธิปัตย์ที่ได้ทำมาตั้งแต่อดีต

  • ชมรมผู้สูงอายุรับ 30,000 บาท ทุกหมู่บ้าน ทุกชุมชน

ปัจจุบันประเทศไทย มีชมรมผู้สูงอายุที่จดทะเบียนอยู่ประมาณ 30,000 ชมรม และถ้าประชาธิปัตย์เป็นการตั้งรัฐบาล ก็จะช่วยสนับสนุนให้ผู้สูงอายุสามารถทำกิจกรรมรวมกลุ่มในลักษณะนี้ต่อไป เพื่อประโยชน์ทั้งทางด้านสุขภาพ ร่างกาย จิตใจและการอยู่ร่วมกันในสังคม รวมทั้งการส่งเสริมอาชีพเพื่อสร้างเงิน สร้างรายได้ให้กับผู้สูงอายุต่อไปด้วย

ประชาธิปัตย์

  • SME ต้องมีแต้มต่อ 300,000 ล้าน

SME คือตัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ ซึ่งมีทั้งภาคเกษตร อุตสาหกรรม บริการ และทุกภาคที่เกี่ยวข้อง โดย SME คิดเป็นกว่า 90% ของนิติบุคคลรวมกันทั่วทั้งประเทศ ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 3,200,000 ราย ก่อให้เกิดการจ้างงานถึง 12.6 ล้านคน

แต้มต่อที่ 1 ถ้าประชาธิปัตย์เป็นแกนตั้งรัฐบาล SME จะมีแต้มต่อทางด้านการผลิต ซึ่งจะมีการจัดการในองค์ความรู้ทุกด้าน ทั้งการผลิต ตลาด การบริหารจัดการ ระบบบัญชี ระบบภาษี ทั้งหมดที่ SME ควรมีแต้มต่อ เพื่อแข่งกับธุรกิจขนาดใหญ่ต่อไปในอนาคตได้

แต้มต่อที่ 2 แต้มต่อทางด้านการตลาด ที่ SME ควรจะได้รับโอกาสในการได้สิทธิ์เพื่อเดินหน้าเข้าสู่ตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศต่อไป ภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาลประชาธิปัตย์ในอนาคต เช่น การออกงานจัดแสดงสินค้า

ถ้าเรียงลำดับตามศักยภาพ SME ไม่มีวันได้ไปต่างประเทศ ดังนั้นจึงต้องให้แต้มต่อ เช่นจัดพื้นที่ให้ 10% สำหรับ SME พร้อมกับนำไปตลาดที่คาดว่า SME จะเปิดได้เบื้องต้น อย่างกลุ่มประเทศ CLMV รวมทั้งประเทศเพื่อนบ้าน เป็นต้น จากนั้นเมื่อแข็งแรงแล้ว จะสามารถขยายไปสู่ตลาดโลกได้ต่อไป

แต้มต่อที่ 3 ตั้งกองทุน 300,000 ล้านบาท เพื่อให้ SME สามารถเข้าถึงแหล่งเงิน แหล่งทุน สำหรับนำมาขยายกิจการ ต่อลมหายใจ หรือนำมาเพิ่มทุนสำหรับเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้กับประเทศต่อไปได้

  • ปลดล็อก กบข. และกองทุนเลี้ยงชีพ ให้ซื้อบ้านได้

ปัจจุบัน กบข. มีวงเงินอยู่ 1.2 ล้านล้านบาทโดยประมาณ และมีสมาชิก กบข.ถึง 1.2 ล้านคน รวมทั้งมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ วงเงินประมาณ 1.4 ล้านล้านบาท และมีสมาชิกอยู่ถึง 3 ล้านคน เมื่อรวม 2 กองทุน จะมีวงเงินอยู่ประมาณ 2.6 ล้านล้านบาท และมีสมาชิกรวมกันประมาณ 4 ล้าน 2 แสนคน

นโยบายปลดล็อกดังกล่าวจะทำให้สมาชิกจากทั้ง 2 กองทุนสามารถนำเงินส่วนหนึ่งมาซื้อบ้านได้ หรือนำมาลดหนี้บ้าน เช่น นำมาเป็นเงินต้น เพื่อให้ยอดเงินต้นลดลง สามารถผ่อนบ้านได้ครบถ้วน และมีบ้านเป็นของตัวเองได้เร็วขึ้น ซึ่งจะช่วยทั้งข้าราชการและผู้ที่ทำประกันสังคม รวมไปถึงผู้ใช้แรงงานด้วย

ประชาธิปัตย์

  • 3 ล้านบาทต่อยอดเกษตรแปลงใหญ่

เกษตรแปลงใหญ่ในปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 10,000 แปลง มีเกษตรกรเข้าร่วม 500,000 ราย ในพื้นที่กว่า 8 ล้านไร่ ถือว่าเกษตรแปลงใหญ่ เป็นเป้าหมายสำคัญในการพัฒนาการเกษตรของประเทศ เป็นการลดต้นทุน เป็นการร่วมกันใช้เทคโนโลยี เป็นการร่วมกันต่อยอดสร้างนวัตกรรมร่วมกันในนามกลุ่ม ซึ่งได้ผลสัมฤทธิ์ที่ดีเป็นที่ประจักษ์แล้วว่า ดีกว่าต่างคนต่างทำ

การทำเกษตรแปลงใหญ่จะสามารถขับเคลื่อนการเกษตรไปสู่ความสำเร็จได้มากกว่า สร้างผลิตภาพได้สูงกว่า ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่ประชาธิปัตย์สนับสนุน และพร้อมที่จะมีเงิน 3 ล้านต่อยอดให้แต่ละกลุ่มแต่ละแปลง

  • ค่าตอบแทน อกม. (อาสาสมัครเกษตรประจำหมู่บ้าน) 1,000 บาทต่อเดือน

เพื่อที่จะช่วยให้กระทรวงเกษตร และสหกรณ์ ได้มีอาสาสมัครที่จะเป็นผู้ไปช่วยดูข้อมูล และประสานงานลึกลงไปถึงระดับหมู่บ้าน ครัวเรือน ที่ทำการเกษตร เพราะเกษตรเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นฐานรากใหญ่ในการขับเคลื่อนพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ จึงจำเป็นต้องมีอาสาสมัครเพื่อไปขับเคลื่อนสิ่งเหล่านี้ให้ประสบความสำเร็จ สำหรับสร้างเศรษฐกิจให้ประเทศฐานรากต่อไป

นายจุรินทร์ อธิบายด้วยว่า ทั้งหมดไม่ได้แปลว่า พรรคมีนโยบาย 8+8 เป็น 16 แต่ยังมีนโยบายอื่น ๆ อีกหลายนโยบาย เกือบจะเรียกว่าเป็นร้อยนโยบาย แต่ที่จะนำมาแถลงข่าวเปิดตัวนั้น จะได้คัดมาเฉพาะนโยบาย ที่ประชาชนจะเข้าถึงได้ง่าย และพรรคก็มีความประสงค์ที่จะนำมาไฮไลท์ ขีดเส้นใต้เป็นกรณีพิเศษเท่านั้น ซึ่งนโยบายที่ได้แถลงมาทั้งหมดจะรวมถึงพื้นที่กรุงเทพมหานครด้วย ไม่แยกจังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo