ระวัง! ‘เสื้อกันหนาวมือสอง’ เสี่ยงเชื้อรา ภูมิแพ้ และโรคผิวหนัง กรมอนามัย แนะ 2 วิธีทำความสะอาดก่อนใช้
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า ประเทศไทยได้เข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการ และปีนี้จะมีอากาศหนาวเย็นมากกว่าปีที่ผ่านมา ประชาชนจึงเริ่มมองหาเสื้อกันหนาว เพื่อเตรียมพร้อมรับลมหนาวและให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย เสื้อกันหนาวมือสอง เป็นตัวเลือกหนึ่งที่ประชาชนนิยมซื้อมาสวมใส่ เนื่องจากมีราคาถูก
เสื้อกันหนาว มือสองบางส่วน นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน บางส่วนก็มาจากเสื้อกันหนาวเก่าที่เก็บไว้นานแล้วมาขายใหม่ เช่น เสื้อผ้าถักไหมพรม เสื้อผ้าสำลี เสื้อผ้าขนสัตว์หรือหนังสัตว์ เสื้อผ้าลูกฟูก เสื้อกันหนาวแบบหนาหรือเสื้อกันหนาวขนเป็ด รวมถึงเสื้อโค้ท
เสี่ยงเชื้อรา ภูมิแพ้ และโรคผิวหนัง
ดังนั้น จึงต้องใส่ใจเรื่องการเลือกซื้อเป็นพิเศษ โดยเลือกร้านที่สะอาดปลอดภัย ไม่วางเสื้อผ้า กองไว้กับพื้นหรือแขวนเสื้อผ้าติดกันจนแน่น รวมถึงในขณะเลือกซื้อควรสวมหน้ากากปิดปาก ปิดจมูก เพื่อป้องกันการสูดฝุ่นละอองที่มากับเสื้อผ้า เลือกเสื้อผ้าที่มีสภาพดี ตรวจสอบรอยด่างดำ รอยคราบสารคัดหลั่ง ไม่ขึ้นรา ไม่มีกลิ่นอับชื้น รวมไปถึงหลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่ทำจากหนังสัตว์ ขนสัตว์ ประเภทขนฟู เนื่องจากทำความสะอาดยากอาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค
เสื้อกันหนาวมือสอง ที่ไม่ผ่านการทำความสะอาดอย่างถูกวิธี อาจทำให้ผู้ซื้อเสี่ยงต่อการเกิดโรคกลาก เกลื้อนจากเชื้อรา หรือโรคภูมิแพ้ที่เกิดจากฝุ่นใยผ้า และฝุ่นที่ติดตามกระสอบบรรจุระหว่างการขนส่ง
หรือจากการแพ้น้ำยารีดผ้าเรียบที่ใช้รีดก่อนจำหน่าย ซึ่งร้านค้าจะใช้น้ำยา ที่มีความเข้มข้นสูง ทำให้ระคายเคืองผิวหนัง โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้อยู่แล้วอาจเกิดอาการรุนแรงมากขึ้น
รวมทั้งอาจเกิดโรคผิวหนังจากพาหะนำโรคที่ชอบอาศัยอยู่ในใยผ้าที่สกปรก ได้แก่ เห็บ หมัด และโลน ทำให้เกิดอาการแพ้ เป็นผื่นคัน ตุ่มแดงนูน ซึ่งเกิดจากการกัดหรือดูดเลือด และหากเกาเป็นแผลอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้
แนะวิธีทำความสะอาด
ดังนั้น ก่อนนำมาใช้ให้ทำความสะอาด โดยแยกเสื้อกันหนาว มือสอง ออกจากเสื้อผ้าปกติ และทำความสะอาดด้วย 2 วิธีคือ
- วิธีที่ 1 ซักด้วยผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าตามปกติแล้วนำไปต้มในน้ำเดือด นาน 15 นาที ถึง 1 ชั่วโมง ส่วนวิธีที่ 2 แช่ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อที่สามารถหาได้ในครัวเรือน ได้แก่ น้ำยาซักผ้าขาว ที่มีส่วนผสมโซเดียมไฮโปคลอไรด์ โดยเติม 1 ฝา ต่อน้ำ 10 ลิตร แล้วแช่ผ้าไว้นาน 5-15 นาที หรือใช้น้ำส้มสายชู 2-3 ถ้วยตวง ต่อน้ำ 1-2 ลิตร แล้วแช่ผ้าไว้อย่างน้อย 1 ชั่วโมง หลังจากซักด้วยวิธีที่ 1
- วิธีที่ 2 แล้ว ให้ซักตามปกติ จากนั้นนำไปตากแดดจัด หรือตากในที่ที่มีอากาศถ่ายเทจนแห้ง แล้วนำมารีดทั้งด้านใน และด้านนอกตัวเสื้อ
ทั้งนี้ การเลือกวิธีทำความสะอาดควรคำนึงถึงประเภทของผ้าด้วย เนื่องจากผ้าบางประเภท ไม่เหมาะกับการต้ม และหากมีเชื้อราขึ้นมากเกินที่จะกำจัดได้ ควรเปลี่ยนหรือทิ้งไป นอกจากนี้ หากมีอาการคันหลังใช้เสื้อกันหนาว มือสอง ไม่ควรแคะ แกะ เกา หรือปล่อยไว้จนลุกลาม ควรรีบไปพบแพทย์ผิวหนัง เพื่อรับการรักษาที่ถูกวิธีต่อไป
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘เขาเขียว’ เปิดตัว ‘ลูกแรดขาว’ ตัวแรกขององค์การสวนสัตว์ หลังรอมา 10 ปี ชมความน่ารักได้ที่นี่!!
- สัญจรย้อนยุค! การรถไฟฯ จัดเดินขบวนพิเศษ ‘รถจักรไอน้ำนำเที่ยว เฉลิมพระเกียรติ 5 ธ.ค.’
- อาหารเช้ายอดนิยม 5 ประเภท รับประทานต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อสุขภาพระยะยาว มีอะไรบ้าง เช็กเลย!