General

สคทช. ติดตามงานจัดที่ดินทํากินชุมชน 3 ป่าสงวนแห่งชาติ สุพรรณบุรี

สคทช. ติดตามการดำเนินงานจัดที่ดินทํากินให้ชุมชน​ พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าห้วยขมิ้น ป่าพุน้ำร้อน และป่าหนองหญ้าไทร พร้อมผลักดันแนว​ทางการส่งเสริมพัฒนาอาชีพ และการตลาด ตามนโยบาย คทช. หวังสร้างคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น

นางรวีวรรณ ภูริเดช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ กล่าวว่า กรมป่าไม้ ในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแลพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี  ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ

โดยการนำนโยบายรัฐบาล ในเรื่องของการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน มาดำเนินการอย่างต่อเนื่อง (ราษฎรอยู่อาศัยมาก่อนการสำรวจตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2541 ในพื้นที่ชั้นคุณภาพลุ่มน้า 3,4 และ 5) โดยการอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในลักษณะแปลงรวม ตามมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507

สคทช.

ในพื้นที่บ้านกกตาดได้รับอนุญาตแล้วจำนวน 2 ครั้ง เนื้อที่รวมประมาณ 267 ไร่ รายละเอียดดังนี้

ครั้งที่ 1 ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าห้วยขมิ้น ป่าพุน้าร้อน และป่าหนองหญ้าไทร กรมป่าไม้ได้ออกหนังสืออนุญาตเล่มที่ 125 ฉบับที่ 10 ลงวันที่ 19 กรกฎาคม 2561 เนื้อที่รวม 362-0-87 ไร่ (บ้านกกตาด เนื้อที่ประมาณ 208 ไร่)

ครั้งที่ 2 ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าห้วยขมิ้น ป่าพุน้ำร้อน และป่าหนองหญ้าไทร กรมป่าไม้ได้ออกหนังสือ อนุญาตเล่มที่ 16 ฉบับที่ 01 ลงวันที่ 30 กันยายน 2563 เนื้อที่รวม 352-3-85 ไร่ (บ้านกกตาด เนื้อที่ประมาณ 59 ไร่)

สำหรับพื้นที่บ้านกกตาดที่เหลือ อยู่ในระหว่างดำเนินการอนุญาตจากกรมป่าไม้ เนื้อที่รวมประมาณ 735 ไร่ ที่รวมอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าห้วยขมิ้น ป่าพุน้ำร้อน และป่าหนองหญ้าไทร เนื้อที่รวม 15,417-3-77 ไร่ และในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าองค์พระ ป่าเขาพุระกา และป่าเขาห้วยพลู เนื้อที่รวม 20,151-0-17 ไร่ ซึ่ง คทช. จังหวัดสุพรรณบุรี มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการ และยื่นเรื่องขออนุญาตใช้ประโยชน์กับกรมป่าไม้แล้ว

สำหรับพื้นที่ที่ได้รับหนังสืออนุญาตเข้าทำประโยชน์ ในพื้นที่บ้านกกตาด และหมู่บ้านใกล้เคียงในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าห้วยขมิ้น ป่าพุน้ำร้อน และป่าหนองหญ้าไทร ได้ดำเนินการจัดคนลงในพื้นที่แล้ว จำนวน 137 ราย 155 แปลง และได้จัดทำสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือก จำนวน 155 เล่ม ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานของรัฐในการดูแลรักษา ฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้  ได้รับการส่งเสริม และพัฒนาอาชีพในพื้นที่ คทช. ส่งผลให้ราษฎรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม พื้นที่แห่งนี้ นับว่าเป็นพื้นที่ที่มีการรวมกลุ่มเกษตรกรที่ความเข้มแข็ง สามารถบริหารจัดการโดยชุมชนได้ดี ทําให้การบริหารจัดการที่ดินของชุมชนเกิดความยั่งยืน​

สคทช.
รวีวรรณ ภูริเดช

สํานักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติจะดําเนินการ เพื่อยกระดับการจัดที่ดินทํากินให้ชุมชน​ โดยปรับเปลี่ยนให้ผู้ขอใช้ประโยชน์การอยู่อาศัย และทำกินในป่าสงวนแห่งชาติ จากเดิมเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด ให้เปลี่ยน​เป็นสหกรณ์​ วิสาหกิจชุมชน หรือกลุ่มเกษตรกร ที่ขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานของรัฐ ในพื้นที่ที่ดําเนินการจัดที่ดินทํากินให้ชุมชนตามนโยบาย คทช.​

ภายใต้เงื่อนไขแนวทางปฏิบัติของกรมป่าไม้ มาตรา ๑๖ แห่ง พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 และเป็นไปตามแนว​ทางการประเมินความเข้มแข็ง​ในการบริหาร​จัดการ​ของสหกรณ์ ​โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์​ และเสนอผ่าน คทช.จังหวัด เพื่อให้ความเห็นชอบ การขอเปลี่ยนผู้ขอใช้ประโยชน์ และเสนอไปยังกรมป่าไม้เพื่อดําเนินการตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง​

นอกจากนี้ ยังได้จัดทำ แผนปฎิบัติงานส่งเสริมพัฒนาอาชีพและการตลาดภายใต้คณะทำงานส่งเสริมพัฒนาอาชีพและการตลาด จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชนอย่างตรงจุด

ทางด้านนายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า กรมป่าไม้ ดำเนินงานภายใต้นโยบายของรัฐบาล และนโยบายของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้วยนโยบายขจัดปัญหาความยากจน  แก้ไขปัญหาการมีที่อยู่อาศัย และที่ทำกินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ให้ประชาชนอยู่ในพื้นที่ได้อย่างถูกกฎหมาย เป็นไปตามนโยบายของ คทช.

กรมป่าไม้ยังมีแนวทาง ส่งเสริมให้ประชาชนในพื้นที่ มีรายได้จากการปลูกไม้เศรษฐกิจ และส่งเสริมให้คนอยู่กับป่า ในลักษณะของ โครงการป่าชุมชน

สคทช.

ขณะที่ นายวิทยา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 กล่าวว่า รู้สึกดีใจ ที่ คทช ได้มอบสมุดพกที่ดินทำกินให้ชาวบ้านในพื้นที่ ถือเป็นการปลดล็อคให้ชาวบ้าน ได้มีชีวิตที่ดีขึ้น แต่อยากให้มีการส่งเสริมอาชีพ และช่วยชาวบ้านเรื่องการตลาด เพราะปัจจุบัน ผลผลิตการเกษตรยังผ่านระบบพ่อค้าคนกลาง นอกจากนี้ยังรู้สึกกังวล เพราะยังมีพื้นที่บางส่วน ที่ยังไม่ชัดเจน ว่าเป็นของสปก. หรือ ป่าไม้

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo