วันนี้ (23 มี.ค.) ดร. รวีวรรณ ภูริเดช เลขาธิการสำนักนโยบาย และแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ได้มอบหมายให้ ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช รองเลขาธิการสผ. เป็นผู้แทนรับหนังสือข้อร้องเรียนจากนายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน และแกนนำชาวบ้านบริเวณโดยรอบสนามบินสุวรรณภูมิ ที่ ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ที่สำนักงานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ถนนพระราม 6 เพื่อขอให้คณะกรรมการฯ ระงับหรือเพิกถอนรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) ซึ่งเพิ่งผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการผู้ชำนาญการฯ(คชก.) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
สผ. จะนำเรื่องนี้เสนอเข้าสู่คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเพื่อพิจารณาต่อไป รวมทั้งจะมีการนำข้อร้องเรียนหารือกับ บริษัทท่าอากาศยาน จำกัด หรือ AOT ในเรื่องการขอให้ชดเชยผู้ได้รับผลกระทบโดยเร็ว
ทั้งนี้ นายศรีสุวรรณ ระบุว่า การให้ความเห็นชอบรายงานของ คชก. ไม่น่าจะชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากโครงการขยายสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 เป็นโครงการที่ต่อเนื่องมาจากโครงการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 1 ซึ่งตามหลักการแล้วจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข และมาตรการที่กำหนดไว้ในรายงาน EHIA ฉบับแรกให้หมดสิ้นเสียก่อน
แต่ คชก.กลับเพิกเฉยต่อการบังคับให้ AOT เจ้าของโครงการฯ ต้องปฏิบัติ จนก่อให้เกิดผลกระทบทางเสียงมาอย่างยาวนานกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนยังได้รับความเดือดร้อน และเสียหายอย่างมาก จากการประกอบการของสนามบิน ตั้งแต่วันที่เปิดทำการมาจนถึงปัจจุบัน โดยที่ยังไม่ได้รับการเยียวยาที่เหมาะสม ตามที่รัฐธรรมนูญ 2560 ม.58 วรรคสาม บัญญัติไว้แต่อย่างใด
กรณีที่เกิดขึ้น ตัวแทนของประชาชนที่เดือดร้อน และเสียหายดังกล่าว พยายามที่จะยื่นข้อเรียกร้องให้ทางคณะกรรมการบอร์ด และผู้บริหาร AOT และกระทรวงคมนาคม ดำเนินการเยียวยาให้เสร็จสิ้นโดยเร็วแล้วก็ตาม แต่ทว่ากลับไม่ได้รับการตอบสนองให้เป็นไปตามข้อเสนอแต่อย่างใด
ในทางกลับกันกลับมีความพยายามที่จะขยายสนามบินสุวรรณภูมิออกไปอีกใน เฟสที่ 2-3 โดยเฉพาะการสร้างรันเวย์ที่ 3 ซึ่งจะก่อให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงเพิ่มมากขึ้น โดยที่การดำเนินการตามมาตรการและเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในรายงาน EHIA ยังดำเนินการยังไม่ครบถ้วนแต่อย่างใด
ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมฯ และตัวแทนชาวบ้าน จึงต้องเดินทางมายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เพื่อได้มีมติระงับหรือเพิกถอนรายงานดังกล่าวเสีย หรือสั่งการไปยัง คชก. เพื่อสั่งให้ AOT เพิ่มเติมข้อเรียกร้องของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสนามบินสุวรรณภูมิ ลงในรายงาน EHIA ฉบับใหม่
- กลุ่มบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่ในแนวเส้นเสียง NEF 30-40 ในเฟสที่ 1 ที่ต้องการขาย จำนวน 75 หลังคาเรือน ให้เร่งเจรจาซื้อโดยเร็ว
- ขอให้มีคนกลาง หรืออนุญาโตตุลาการ เข้ามาดูแลในเรื่องของราคาชดเชยปรับปรุงบ้านและราคาซื้อขายบ้าน
- ขอให้ชดเชยเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบทางเสียงที่มีบ้านเรือนตั้งอยู่ระหว่างรันเวย์ที่ 1 และรันเวย์ที่ 2 หรือเรียกว่า “ช่องว่างหูกระต่าย” ทั้งฝั่งทิศเหนือและใต้ของสนามบินสุวรรณภูมิ เพราะในการบินของนักบินสายการบินต่าง ๆ นั้น มีการบินนอกเส้นเสียงอยู่เป็นประจำ
หากการร้องเรียนในครั้งนี้ไม่เป็นผล สมาคมฯ และชาวบ้าน จะนำความขึ้นฟ้องต่อศาลปกครองต่อไป