General

เริ่มวันนี้! ปฏิรูปห้องฉุกเฉิน แยกผู้ป่วยวิกฤติ-ไม่รุนแรง-ลดแออัด

สปสช.ร่วมขับเคลื่อนนโยบายบริการเจ็บป่วยฉุกเฉินคุณภาพ บูรณาการพร้อมกับ สธ.ที่นำร่อง “ห้องฉุกเฉินคุณภาพ” ใน 21 โรงพยาบาล ตั้งแต่วันนี้ (1 ธ.ค.) โดยแยกจัดบริการนอกเวลาราชการ ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติ และผู้ป่วยฉุกเฉินไม่รุนแรง พร้อมเพิ่มบริการใหม่ “ผู้ป่วยฉุกเฉินไม่รุนแรงนอกเวลาราชการ” ดูแลประชาชนเข้าถึงบริการเพิ่ม ลดความขัดแย้งวินิจฉัยกรณีฉุกเฉิน

EKrVCbnVUAAY73a

นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า จากที่คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้มีมติเห็นชอบในหลักการตามข้อเสนอ “แนวทางการปฏิรูปห้องฉุกเฉิน” ของกระทรวงสาธารณสุข โดยเพิ่มรายการบริการใหม่ กรณีผู้ป่วยฉุกเฉินไม่เร่งด่วนและเหตุสมควรอื่นกรณีเจ็บป่วยทั่วไป ที่เป็นความจำเป็นของประชาชนที่เข้ารับบริการนอกเวลาราชการ

เบื้องต้นกระทรวงสาธารณสุขได้นำร่องห้องฉุกเฉินคุณภาพในโรงพยาบาล 21 แห่ง และจะดำเนินการให้ครบ 34 แห่งภายในปี 2563 ซึ่งจะมีการแยกห้องบริการให้ชัดเจน คือ ห้องฉุกเฉินคุณภาพที่ให้บริการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติและเร่งด่วน ภายในห้องนี้จะมีเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ครบครัน เพื่อดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติและเร่งด่วนได้อย่างเต็มที่ และห้องฉุกเฉินไม่เร่งด่วนที่ดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินไม่รุนแรง และเหตุสมควรอื่นกรณีเจ็บป่วยทั่วไปที่เป็นความจำเป็นของประชาชน

ผลที่เกิดขึ้นนอกจากทำให้ผู้ป่วยฉุกเฉินทั้ง 2 กลุ่ม ได้รับบริการที่ดีและมีมาตรฐานแล้ว ยังช่วยลดความเห็นที่ไม่ตรงกันที่นำมาสู่การเผชิญหน้า ทั้งทำให้เกิดความเข้าใจระหว่างผู้ให้บริการและผู้รับบริการมากขึ้น ตอบโจทย์ต่อสถานการณ์และปัญหาที่เกิดขึ้นได้

3372a3d33
นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา

ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการดูแลผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ให้ผู้ป่วยฉุกเฉินไม่เร่งด่วนและเหตุสมควรอื่นกรณีเจ็บป่วยทั่วไปที่เป็นความจำเป็นของประชาชนที่เข้ารับบริการช่วงนอกเวลาราชการไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย บอร์ด สปสช.ยังได้ขยายการชดเชยค่าบริการให้ครอบคลุมส่วนนี้ เริ่มตั้งแต่วันนี้ ในอัตราการจ่ายชดเชยค่าบริการ 150 บาทต่อครั้ง โดยปีงบประมาณ 2563 คาดว่าจะมีจำนวนการรับบริการ 1.05 ล้านครั้ง เป็นงบประมาณไม่เกิน 157.50 ล้านบาท เป็นการคาดการณ์จากข้อมูลในปีที่ผ่านมา

นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวต่อว่า สำหรับญาติที่มาดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินนั้น ขณะนี้มีโรงพยาบาลหลายแห่งได้จัดระบบมาตรฐานแล้ว โดยติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ที่หน้าห้องฉุกเฉิน เช่น โรงพยาบาลชลบุรี และโรงพยาบาลระยอง เพื่อให้ญาติผู้ป่วยรับทราบว่าผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างไรบ้าง

Avatar photo