General

อย่าตื่นตระหนก! ‘พิพัฒน์’ ยืนยัน ยังไม่มีแรงงานไทยบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จากสงครามอิหร่าน-อิสราเอล

“พิพัฒน์” ยืนยัน ยังไม่มีแรงงานไทยบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จากสงครามอิหร่าน-อิสราเอล และพร้อมให้การช่วยเหลือในทันที ญาติแรงงานอย่าเพิ่งตื่นตระหนก

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ผลกระทบจากการสู้รบระหว่างอิหร่านและอิสราเอล ซึ่งสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้ประกาศเตือนคนไทยในอิสราเอลให้อยู่ในที่ที่ปลอดภัย เนื่องจากมีการโจมตีจากอิหร่าน

ในส่วนของกระทรวงแรงงาน ได้สั่งการให้อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เร่งตรวจสอบและดูแลแรงงานไทยอย่างใกล้ชิดทันที

พิพัฒน์
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ

ไม่มีแรงงานไทยได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

จากรายงานของนายกิตติ์ธนา ศรีสุริยะ อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ พบว่า ขณะนี้ยังไม่มีแรงงานไทย ได้รับบาดเจ็บ หรือ เสียชีวิตจากการโจมตี จากสถานการณ์ดังกล่าวแต่อย่างใด

พิพัฒน์
นายไพโรจน์ โชติกเสถียร

ด้าน นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ขอให้แรงงานไทยที่ทำงานอยู่ในอิสราเอลทุกคน ปฏิบัติตามมาตรการของทางการอิสราเอลอย่างเคร่งครัด ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางสถานทูตไทยอย่างใกล้ชิด

โดยขอให้ติดตามประกาศของแต่ละท้องถิ่น หรือแจ้งข้อมูลมายังฝ่ายแรงงาน ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ หากต้องการขอรับความช่วยเหลือ หรือได้รับผลกระทบ เพื่อจะได้วางแผนในการให้ความช่วยเหลือต่อไป

“ขอให้ญาติของแรงงานไทยที่ไปทำงานในประเทศอิสราเอล อย่าเพิ่งตื่นตระหนก ขอให้มั่นใจว่า รัฐบาลไทย ทั้งสถานทูตและกระทรวงแรงงานจะให้การคุ้มครอง ดูแลอย่างดีที่สุด และจะเร่งติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด” นายไพโรจน์กล่าว

พิพัฒน์

ขอคนไทยปฏิบัติด้านความปลอดภัย

ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้ออกประกาศเตือนคนไทยในอิสราเอลถึงแนวปฏิบัติด้านความปลอดภัย โดยขอให้ปฏิบัติ ดังนี้ 1. ห้ามมีการชุมนุมมากกว่า 1,000 คน ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ และปิดสถาบันการศึกษา 2. ในพื่นที่สู้รบ ห้ามชุมนุมมากว่า 30 คน และ 3. สถานที่ทำงานเปิดได้เฉพาะที่มีห้องหลบภัย โดยรัฐบาลได้ประกาศปิดน่านฟ้าและงดเที่ยวบินทั้งหมด ตั้งแต่เวลา 00.30 น. ของวันที่ 14 เมษายน 2567 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง

สำหรับคนไทยที่ได้รับผลกระทบ โปรดติดต่อได้ที่สถานเอกอัครราชทูตฯ หมายเลขโทรศัพท์ (+972) 5 4636 8150 (+972) 5 0367 3195

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo